“มัลติฟอร์ท 8 ทู คราวน์” (Multifort 8 Two Crowns) คอลเลกชั่นใหม่จาก “มิโด” (MIDO) นาฬิกาชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเครือ เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ที่ผสมผสานเทคโนโลยีอันทันสมัยกับรูปทรงเรขาคณิตจนเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ชื่อว่า TECHNOMEYRY รวมทั้งคอลเลกชั่นน่าสะสมแห่งปีกับ MIDO Novelties 2025 Preview พร้อมเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ จินนี่-เอมษิกา โชติวิจิตร, นิ้ง-โศภิดา จิระไตรธาร, ภณ-ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์, เก่ง-หฤษฎ์ บัวย้อย, นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์, วินเนอร์-ธนทัต คูณอเนกสิน, ฮิม-เอลิชา รุ่งเรืองสิริและอีกมากมาย

มร.ฟรานซ์ ลินเดอร์ กล่าวว่า “คอลเลกชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการผสมผสานเทคโนโลยีของกลไกนาฬิกาที่ทันสมัยเข้ากับรูปทรงเรขาคณิตที่เป็นทรงแปดเหลี่ยมน่าค้นหา เกิดเป็นคอนเซ็ปต์ TECHNOMETRY ที่ลงตัวด้วยดีไซน์ที่สวยงามมาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่เป็นเลิศ ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับมิโด เราเล็งเห็นถึงความหลงใหลในนาฬิกาที่มีคุณภาพ ดีไซน์ และเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน สามารถตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ของคนรักนาฬิกาได้ ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของแบรนด์ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นาฬิกาสวิสที่มีคุณภาพสูงและเข้าถึงง่าย ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน และดีไซน์เหนือกาลเวลา”

คอลเลกชั่นใหม่นี้นับเป็นสุดยอดนวัตกรรมในดีไซน์สปอร์ตเรียบหรูที่ได้ถ่ายทอดผ่านตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีล มีขนาดหน้าปัดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. โดดเด่นด้วยกรอบตัวเรือนรูปทรงเรขาคณิตแปดเหลี่ยม พร้อมฟังก์ชันที่ไม่เหมือนใคร ด้วยขอบด้านในแบบหมุนได้จากการทำงานของเม็ดมะยมในตำแหน่ง 2 นาฬิกา ซึ่งเม็ดมะยมของรุ่นนี้ถูกออกแบบเป็นทรงแปดเหลี่ยมที่เคลือบด้วย PVD สีดำเข้ม โดยมีทั้งหมด 2 ตำแหน่งด้วยกัน โดยในตำแหน่ง 2 นาฬิกาใช้ตั้งขอบหน้าปัดด้านในที่หมุนได้สำหรับใช้นับเวลาถอยหลัง และตำแหน่ง 4 นาฬิกา สำหรับตั้งเวลาและขึ้นลาน หน้าปัดจะมาในโทนสีดำด้านสุดเท่ พร้อมลายเส้นแนวนอนสร้างความตื่นตาตื่นใจยามสะท้อนแสง ขอบตัวเรือนด้านในที่สามารถหมุนได้นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำเพื่อใช้จับเวลาแบบนับถอยหลังได้อย่างปลอดภัย โดยกระจกหน้าปัดผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์ที่มีการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านเพื่อการอ่านเวลาได้อย่างชัดเจนในบริเวณที่มีแสงแดดจัด ตัวเรือนขัดเงาสะท้อนแสงแมทช์ลงตัวกับกรอบหน้าปัดรูปทรงแปดเหลี่ยม สามารถในการกันน้ำลึกได้ถึง 10 บาร์ หรือ 100 เมตร

จินนี่-เอมษิกา เผยว่า “เราจะมองหาแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความคุ้มค่าที่จะลงทุน เราจะเลือกจากดีไซน์ที่เหมาะกับสไตล์ของเรา มีความเรียบหรู สวมใส่ได้ในทุกโอกาสและเข้ากับทุกลุค อย่างเรือนที่ใส่วันนี้ก็ด้วยความที่เป็นสแตนเลสสตีล แมทช์ได้ทั้งลุคที่เป็นทางการหรือใส่ในวันสบายๆ เพื่อให้การแต่งตัวคอมพลีทมากยิ่งขึ้น”

นิ้ง-โศภิดา เล่าว่า “เวลาเลือกนาฬิกาก็เลือกจากดีไซน์ที่เรียบหรู เหมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มลุคให้ดูภูมิฐานและสร้างความมั่นใจให้เราได้ นาฬิกาที่มีความคลาสสิกและประณีตจะช่วยเสริมบุคลิกให้ดูสง่างามยิ่งขึ้น อย่างเรือนที่ใส่มาวันนี้ เป็นดีไซน์ที่มีความเรียบหรูแต่ขณะเดียวกันก็มีความโมเดิร์นด้วยกรอบตัวเรือนรูปทรงเรขาคณิตแปดเหลี่ยม และด้วยหน้าปัดสีเทาที่ทำให้ลุคดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น”
ภณ-ณวัสน์ เผยว่า “นอกจากดีไซน์คลาสสิกโมเดิร์นที่ชอบแล้ว เราจะให้ความสำคัญกับเรื่องฟังก์ชั่นด้วยเช่นกัน เพราะเป็นคนชอบออกกำลังกายและทำกิจกรรมกลางแจ้ง ดังนั้นนาฬิกาที่ใส่ต้องมีความแข็งแรงทนทาน มีฟังก์ชั่นที่ช่วยซัพพอร์ตการกิจกรรมอย่างการจับเวลา อย่างเรือนนี้ของมิโดจะมีเม็ดมะยม 2 ตำแหน่งตรงตำแหน่ง 2 นาฬิกาซึ่งสามารถใช้ในการจับเวลาได้ และตำแหน่ง 4 นาฬิกา ใช้สำหรับตั้งเวลาและขึ้นลาน ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น ส่วนดีไซน์ก็มีความคลาสสิกและดูเท่ได้ด้วยหน้าปัดเป็นทรงแปดเหลี่ยมที่ดูทันสมัยและใส่ได้ในหลายโอกาส”
ติดตามได้ที่ www.midowatches.com, Facebook: Mido Watches, LINE: @midothailand, 02-610-0200