Headlines

ความทรงจำผ่านร่องรอยแห่งแสงแดดและ 5 ดอกไม้

“Traces of Sunlight & February” นิทรรศการที่สะท้อนขบวนการเติบโตของดอกไม้ทั้ง 5 สายพันธุ์จาก 5 ศิลปินที่ออกแบบขึ้นโดยใช้แสงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ที่งอกเงยไปจนถึงช่วงเวลาที่ผลิบานอย่างเต็มที่ ร่องรอยของแสงแดดไม่ได้เป็นเพียงรูปธรรม แต่ยังเป็นตัวแทนของ พลังชีวิต ความหวัง และ การเริ่มต้นใหม่ ณ ICON Art and Culture Space ชั้น 8 ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่วันนี้ – 5 มีนาคม 2568

“Arumilike flower by ORON” จักรกฤษณ์ โสมหิรัญ หรือ โอร่อน พูดถึงความรักในช่วงวัยเด็ก ความรักในวัยเด็กเกิดขึ้นด้วยความเรียบง่าย จากความรู้สึก “ชอบ” แล้วไม่มีอะไรซับซ้อน เหมือนการทดลองเสียมากกว่า การเริ่มต้นใหม่จึงไม่ใช่เรื่องยากเหมือนความรักในวัยคนโต จึงหยิบยกดอก Arumilike flower บางครั้ง ‘ดอกไม้’ ที่เราไม่รู้จักชื่อ กลับเป็นสิ่งที่งดงามที่สุดในจินตนาการของเรา มาเป็นตัวแทนของดอกไม้ในความรักของช่วงวัยนั้น โดยดอกไม้นี้ได้ใช้วิธีการ ผวนคำ ให้เกิดคำใหม่ “ดอกอะรูมิไร้” หรือผวนคำได้ว่า “ดอกอะไรไม่รู้” หรือ โดยใช้คำว่า “like” ที่แปลว่า “ชอบ”ที่เป็นสารตั้งต้นของความรักในวัยเด็ก โดยผลงานชุดนี้จะบอกเล่าเรื่องราวผ่านคาแร็กเตอร์ ชื่อ Paper เกิดจากคอนเซปต์ “รักเรียบง่าย” สื่อถึงความรักที่ไม่ต้องการคำตอบ ไม่ต้องการเหตุผล แค่ความรู้สึก ‘Like’ ที่บริสุทธิ์และตรงไปตรงมา เหมือนความรักในวัยเด็กที่ทุกอย่างดูง่ายดาย ไม่ซับซ้อน ไม่มีการคาดหวัง แต่กลับลึกซึ้งและอบอุ่นจนยากจะลืม เหมือนกับความรักที่เราได้ลองสัมผัสครั้งแรก ง่ายดายแต่ลึกซึ้ง ดอกไม้แห่งจินตนาการที่งอกงามจากความสงสัยใคร่รู้อันแสนเรียบง่ายของหัวใจในวัยเด็ก

“Morning Glory by Tomato Head” พรพพิน หล้าทา หรือ พิมพ์ กับ รักรุ่งโรจน์ ที่บานสะพรั่งบนความไม่จีรัง Morning Glory เจ้าดอกผักบุ้งที่บานสะพรั่งในยามเช้าตรู่ เผยความงามราวกับอัญมณีท่ามกลางแสงแรก ช่างน่าเสียดาย ที่เจ้าร่วงโรยลงอย่างรวดเร็วเมื่อตะวันกำลังลับฟ้า สัญลักษณ์ของ “ความรุ่งโรจน์ที่เปราะบาง” ย้ำเตือนเราว่า ความสำเร็จ ชื่อเสียง หรืออำนาจ อาจหอมหวานเพียงชั่วครู่ ดั่งดอกไม้ที่มีเวลาเบ่งบานในเวลาอันสั้น และเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งเหล่านั้นอาจเสื่อมสลาย เหลือทิ้งไว้เพียง “ความผูกพัน และ ความทรงจำ” สิ่งเล็กๆ รอบตัว อาจเป็นโอกาสอันมีค่าเหมือนเจ้า Morning Glory ที่มีช่วงเวลาบานสะพรั่งแค่เพียงช่วงเวลาที่ตะวันสาดแสง มันเตือนให้เราไม่ยึดติดกับสิ่งชั่วคราว แต่สอนให้เรารู้จักเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบัน เพื่อซึมซับโอกาสอันเล็กน้อย ที่เต็มไปด้วยความหมาย เพิ่มคุณค่าในการมีชีวิต ชวนให้ก้าวเดินต่อไปอย่างเต็มที่  เมื่อช่วงเวลาแห่งความเบ่งบานมาถึง เราจะไม่ลืมบรรยากาศเบื้องล่าง ทุกคนล้วนเดินบนกฏแห่งความไม่เที่ยง เราจะไม่มีทางเสียใจเมื่อแสงค่อยๆจางไป เพราะสิ่งที่เหลืออยู่ คือ ประสบการณ์ และ ความรักที่หลงเหลือในใจคนรอบตัว

“Rose by 29 Art-Studio” วุฒิภัทร วงศ์ดี หรือ ภัทร สภาวะความผูกพันในความรัก เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนั้นหลากหลาย ดั่งกุหลาบหลากสีในสวนอันกว้างใหญ่ บานสะพรั่งท่ามกลางความทรงจำ สะท้อนถึงความรู้สึกและความหมายที่แตกต่างกันไปตามสีและลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นความรักในครอบครัว มิตรภาพ หรือแม้แต่ความผูกพันกับสิ่งเล็กๆรอบตัว การดูแลกุหลาบในสวน เปรียบได้กับการดูแลความสัมพันธ์ เรารดน้ำใส่ปุ๋ยด้วยความใส่ใจ ตัดแต่งกิ่งด้วยความอดทน และชื่นชมความงามด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง ยามที่เราสัมผัสกับช่วงเวลาแห่งความสุข ความอบอุ่น หรือแม้แต่ความเศร้าหมอง เปรียบเสมือนกุหลาบดอกหนึ่งในสวนชีวิต บางดอกเบ่งบานสดใส แต่บางดอกอาจโรยราและทิ้งไว้เพียงกลีบที่ร่วงหล่น ทว่ากลิ่นหอมของมันยังคงอบอวลในความทรงจำ กุหลาบทุกดอกสอนให้เราเข้าใจว่า ความรักที่แท้จริงไม่ใช่แค่การบานสะพรั่งในวันนี้ แต่คือการหล่อเลี้ยงความผูกพันที่จะคงอยู่ตลอดไป

“Rosemary by Captain MOZMO” โดย ณัฐชา ลีวันแสงทอง หรือ มากิ ความทรงจำ รักตลอดกาล Rosemary ไม่ได้เป็นเพียงพืชสมุนไพร แต่เป็น “ผู้เก็บความทรงจำ” พลังแห่งการระลึกถึง ความรัก ความผูกพันอันแสนอบอุ่น ที่เคยได้สัมผัสจากบุคคลอันเป็นที่รักในอดีต ไม่ว่าความสัมพันธ์จะสิ้นสุดลงด้วยการจากลาหรือระยะทางที่ไกลแสนไกล ดอก Rosemary เป็นสัญลักษณ์ที่ย้ำเตือนถึงสายใยแห่งความรักและความทรงจำที่ไม่เคยจางหาย ราวกับบันทึกที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ให้เรา เพื่อให้เราระลึกถึงช่วงเวลาที่มีความหมาย  ทุกความสัมพันธ์คือบทกวีที่ถูกเขียนขึ้นโดยกาลเวลา มีจุดเริ่มต้น ดำรงอยู่ และ ดับไป ตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตาย “Rosemary” จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำ และ รักอันเป็นนิรันดร์ แฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งในทุกกลีบ กลิ่นหอมของมันคือความรักที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แม้ร่างกายจะแยกจากกันไป แต่หัวใจและจิตวิญญาณยังคงอยู่ตลอดกาล

“Lily of the Valley” โดยอรญา ลัดดากลม หรือ Lookplu8 (ลูกพลับ) ความสมหวังเรื่องความรัก “Lily of the Valley by Karoke: เสียงกระดิ่งแห่งความสมหวัง” เจ้าดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ที่เรียงตัวอย่างงดงาม ราวกับกระดิ่งจากสรวงสรรค์ ถูกยกย่องให้เป็นตัวแทนของความสุข ความสมหวัง และการเริ่มต้นใหม่ รูปร่างที่ละม้ายคล้าย กระดิ่งเล็ก ๆ ของ Lily of the Valley ทำให้มันมีความหมายพิเศษในวัฒนธรรมต่าง ๆ เชื่อกันว่าเสียงของกระดิ่งสามารถขับไล่พลังงานลบและสิ่งไม่ดีออกไปได้ พร้อมกับเรียกสิ่งดีๆเข้ามาแทนที่ ไม่ว่าจะเป็นโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ หรือโอกาสที่ดีในชีวิต ตัวแทนของความเชื่อในสิ่งดีงาม กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เตรียมสัมผัสพลังงานบวก จาก ดอกลิลลี่แห่งหุบเขา และเสียงกระดิ่งแห่งความสุข พร้อมขับไล่ความทุกข์ ต้อนรับความโชคดีให้หลั่งไหลเข้ามาในชีวิต

นริศรา เพียรวิมังสา เป็นแขกพิเศษที่โดดเด่นด้านการใช้สีอะคริลิกสร้างสรรค์จิตรกรรมเชิงสัญลักษณ์ บุคคลลึกลับพร้อมดวงตาเบิกกว้างที่เต็มไปด้วยความใคร่รู้ รวมถึงงานปักผ้า (Embroidery) ที่มีความละเอียดอ่อน อัตลักษณ์ที่พิเศษไม่เหมือนใครคือการลดทอนความสมบูรณ์แบบทางกายวิภาค โดยเน้นผสานการสื่อความหมายจากสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของผู้คนร่วมสมัย ทั้งหลากหลายและซับซ้อน มีทั้งด้านดีและร้าย ปะปนกันไป แรงบันดาลใจจากแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ฉายบนก้อนเมฆ ที่เรียกว่า “Vanilla Sky” ซึ่งให้ความรู้สึกอ่อนหวาน สงบ แต่ก็แฝงความลึกลับแห่งราตรีที่กำลังคืบเข้ามา “Moon Child” แสงจันทร์ที่เราเห็นนั้น ความจริงเป็นแสงของดวงอาทิตย์ที่สาดลงบนผิวของดวงจันทร์ ดังนั้นดวงจันทร์จึงเป็นอีกร่องรอยหนึ่งของแสงอาทิตย์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *