หลังกวาดรางวัลมากมายจากหลายเวที ภาพยนตร์อบอุ่นจาก Searchlight Pictures เรื่อง “A Real Pain” เข้าชิง 2 รางวัล 97th Academy Awards ในสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมและนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม “คีแรนคัลกิ้น” (Kieran Culkin) ในเคมีสุดแปลกของลูกพี่ลูกน้องต่างขั้ว ผลงานอันยอดเยี่ยมของเจสซีไอเซนเบิร์ก (Jesse Eisenberg) ในวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคมนี้ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

“A Real Pain” บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางสุดอลเวงของเดวิด (Devid) และเบนจิ (Benji) ลูกพี่ลูกน้องคนละขั้วที่แตกต่างและไม่เข้ากันเลยแต่ต้องเดินทางไปทัวร์โปแลนด์รำลึกถึงภูมิหลังประวัติครอบครัวของพวกเขาเพื่อให้เกียรติแด่คุณยายผู้เป็นที่รักด้วยกันการผจญภัยครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความท้าทายและบททดสอบซึ่งเรียกทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตาจากผู้ชมได้อย่างเกินคาดเดาจนกวาดคำชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์หนังมาอย่างท่วมท้นและยังได้มะเขือเทศสดจากแพลตฟอร์ม Rotten Tomatoes การันตีคุณภาพว่าเป็นภาพยนตร์สดใหม่ที่น่าดูด้วยคะแนนสูงถึง 96% อีกทั้งยังคว้ารางวัลมากมายจากหลายเวทีรวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงลูกโลกทองคำหรือ Golden Globe Awards ถึง 4 รางวัลคือภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทเพลงหรือคอมเมดี้, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเจสซีไอเซนเบิร์ก, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมคีแรนคัลกิ้นและบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ก่อนที่ คีแรนคัลกิ้น จะคว้ารางวัลในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ

แรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อนระหว่างที่เจสซีไอเซนเบิร์กและภรรยาในปัจจุบันของเขาเดินทางไปโปแลนด์แล้วได้แวะเยี่ยมบ้านหลังเล็กๆในหมู่บ้าน Kranystaw ที่ซึ่งป้า Doris ของเขาเคยอาศัยอยู่ก่อนที่เหตุการณ์ Holocaust จะพลัดพรากครอบครัวของเธอทั้งหมดทำให้เขานึกขึ้นว่าหากสงครามไม่เกิดขึ้นเขาคงจะอยู่ที่นี่แล้วถ้าเป็นแบบนั้นชีวิตในวันนี้ของเขาจะเป็นอย่างไรความคิดนั้นทำให้เขาตกตะกอนเขียนบทละครเวทีเรื่อง The Revisionist ขึ้นมาแล้วเปิดการแสดงนอกบรอดเวย์ในปี 2013 ซึ่งประสบความสำเร็จแต่กลับล้มไม่เป็นท่าเมื่อพยายามจะดัดแปลงมาสู่บทภาพยนตร์กระทั่งวันหนึ่งเขาบังเอิญเจอ ‘โฆษณาที่น่าหดหู่แต่เป็นโชคดี’ ทางออนไลน์เกี่ยวกับ ‘ทัวร์ Holocaust พร้อมอาหารกลางวัน’

“มันเป็นโฆษณาทัวร์สถานที่เกี่ยวกับ Holocaust ในโปแลนด์แต่มาพร้อมด้วยความสะดวกสบายทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันชนชั้นกลางระดับบนต้องการผมอ่านมันด้วยความรู้สึกทึ่งปนช็อกและอึดอัดที่จะเป็นหนึ่งในลูกทัวร์ซึ่งเรียกร้องความสะดวกสบายในขณะที่กำลังชมความสยดสยองและหดหู่ในประวัติความเป็นมาของครอบครัวผมแต่นั่นเป็นแนวททางที่ยอดเยี่ยมมากในการสร้างภาพยนตร์” ไอเซนเบิร์กบอกเล่าและแล้วเขาก็ได้กลับไปที่บ้านหลังเล็กใน Kranystaw อีกครั้งในฐานะผู้กำกับนักเขียนบทและผู้รับบทเป็นเดวิดใน “A Real Pain” คุณพ่อมือใหม่ชาวนิวยอร์กที่ไปทัวร์ประวัติศาสตร์ Holocaust ในโปแลนด์พร้อมกับลูกพี่ลูกน้องอย่างเบนจิ (แสดงโดยคีแรนคัลกิ้น) ด้วยเงินที่คุณยายผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ทำให้ได้รื้อฟื้นสายสัมพันธ์ในวัยเด็กและพบว่าโศกนาฏกรรมในอดีตของครอบครัวยังคงมีอิทธิพลต่อชีวิตของพวกเขาในบางแง่มุม
ไอเซนเบิร์กที่นำเรื่องราวส่วนตัวใส่ลงไปในภาพยนตร์มอง “A Real Pain” ในสองแง่มุมมุมหนึ่งเขามองว่าเป็นเรื่องราวคอเมดี้เกี่ยวกับ “คนสองคนที่แตกต่างกันแต่พยายามเดินไปพร้อมๆกันในสถานการณ์ต่างๆ”ทว่าในอีกมุมหนึ่งกลับมีความลึกซึ้ง“เพราะเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวส่วนตัวของคนคนหนึ่งจึงเข้าถึงผู้คนได้อย่างลึกซึ้งกินใจโดยเฉพาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์หรือภูมิหลังแบบเดียวกันทำให้พวกเขารู้สึกอะไรบางอย่าง”นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรื่องราวของ “A Real Pain” ประทับใจผู้คนจนเจสซีไอเซนเบิร์กได้รับคำชมอย่างล้นหลามในฐานะมือเขียนบทที่สร้างสรรค์บทภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
“จริงๆ Sherri Berman และ Robert Pulcini ผู้กำกับซีรีส์เรื่อง Succession (ซีรีส์ที่คัลกิ้นร่วมแสดง) เคยบอกผมว่าคีแรนเป็นคนที่ด้นสดได้ตลกที่สุดที่เคยพบมาซึ่งผมก็ตอบกลับไปว่าขอบคุณที่ให้ข้อมูลนะแต่นั่นไม่ใช่รูปแบบของหนังเรื่องนี้เพราะผมไม่ต้องการเปลี่ยนบทพูดใดๆเลย” ไอเซนเบิร์ก ซึ่งมาจากสายละครเวทีที่เคารพต่อบทละครมากย้อนความก่อนจะเล่าต่อว่าจนกระทั่งมีฉากหนึ่งที่กรุ๊ปทัวร์ต้องเดินผ่านสวนและตัวละครเบนจิเริ่มพูดคุยกับมาร์ชา (Marsha รับบทโดย Jennifer Grey) ผู้กำกับอย่างเขาตัดสินใจเขากระตุ้นให้คัลกิ้นพูดอะไรก็ได้ตามต้องการเพื่อเก็บไว้เป็นแผนสำรองแต่กลับพบว่า “เขาวิ่งไปหาเธอแล้วพูดอะไรบางอย่างที่มันตลกแบบไม่น่าเชื่อและผมก็คิดว่าโอ้!เขานี่แหละอัจฉริยะมันตลกมากและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ” และในอีกฉากหนึ่งช่วงต้นเรื่องเมื่อกรุ๊ปทัวร์หยุดอยู่ที่รูปปั้นจำลองเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองตัวละครเบนจิก็สร้างบรรยากาศได้อย่างน่าทึ่งด้วยการสร้างเกมให้ลูกทัวร์แต่ละคนรับบทเป็นทหารบ้างเครื่องบินบ้างซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ไอเซ็นเบิร์กยอมรับว่า “ตอนเขาด้นสดฉากเหล่านั้นก็ไปในทิศทางที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนและทำให้ผมได้เรียนรู้บางอย่างจากหนังเรื่องนี้ว่าถ้านักแสดงนำสิ่งที่ยอดเยี่ยมเข้ามาก็จงปล่อยให้เป็นไป” และสิ่งที่คัลกิ้นทำก็ยอดเยี่ยมจนถูกใส่ลงในภาพยนตร์จริงๆ
คัลกิ้นได้รับคำชมมากมายแต่มองว่าสิ่งที่ทำไปไม่ได้เป็นการด้นสดเท่าไรเพราะเป็นการพูดและคิดแบบตัวละครที่เขารู้จักเป็นอย่างดี “สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ถูกคิดไว้ล่วงหน้าและไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตลกหรือสื่ออะไรที่ยิ่งใหญ่แค่บางครั้งเบนจิพูดอะไรที่ต่างออกไปจากบทบ้างแต่ท้ายที่สุดเราก็กลับไปที่บทภาพยนตร์เสมอ”
ติดตามได้ทาง X: @20thCenturyTH, Instagram: @20thCenturyStudiosTH, Facebook: @20thCenturyStudiosTH, YouTube: @20thCenturyStudiosTH