“Mufasa: The Lion King มูฟาซา: เดอะไลอ้อนคิง” สร้างกระแสบอกต่อถึงความยอดเยี่ยมสมกับเป็นภาพยนตร์ที่สุดแห่งปีโดยทุกเสียงการันตี “เนื้อเรื่องเยี่ยมภาพสวยเพลงดี” และ “เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ไพเราะ ติดหูและสื่ออารมณ์ได้เป็นอย่างดี” โดยมือทอง ลิน-มานูเอล มิรันดา (Lin-Manuel Miranda)
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นในขณะที่คุณกำลังดูภาพยนตร์เพลงคือคุณสามารถโยกหัวไปตามจังหวะเพลงอินไปกับบรรยากาศและในขณะเดียวกันก็กำลังซึมซับเรื่องราวไปพร้อมกันด้วย” เจนกินส์ กล่าว “เมื่อผมอ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้ก็รู้สึกได้ว่าจุดที่ต้องมีเพลงเด่นชัดออกมาเลยจริงๆซึ่งในบรรดาเพลงที่ผมแต่งให้กับ Mufasa: The Lion King มีอย่างน้อย 2-3 เพลงที่ชื่อเพลงมาจากบทสนทนาในบทภาพยนตร์อย่าง ‘I always wanted a brother’ ก็เป็นส่วนหนึ่งในบทสนทนาของตัวละครและผมก็แต่งเนื้อเพลงทั้งเพลงจากชื่อเพลงนั้นโดยผมจะมองหาวัตถุดิบจากบทภาพยนตร์เสมอว่าจะร้องอะไรออกไป” มิรันดาเล่าถึงการทำงานของเขาก่อนจะเผยถึงวิธีวัดผลว่าเพลงที่แต่งสำหรับ“Mufasa: The Lion King” จะถูกใจคนดูหรือไม่ว่า“ตัวชี้วัดที่ดีที่สุดในชีวิตผมคือลูกชายของผมเองผมมีลูกชายสองคนและจะรู้ได้ทันทีว่าเพลงที่แต่งใช้ได้ถ้าพวกเขาร้องเพลงนั้นในบ้านดังนั้นพอได้ยินลูกชายวัย6 ขวบวิ่งไปรอบๆแล้วร้อง ‘I always wanted a brother!’ ผมก็คิดเลยว่าโอเคเพลงนี้ผ่าน”
นอกจากหาวัตถุดิบจากบทภาพยนตร์เขายังมองหาโอกาสที่จะมอบความสนุกสนานเล็กๆน้อยๆให้กับคนดูด้วยการสร้าง Joy Bombs ผ่านบทเพลงด้วย “อย่างที่รู้ว่าตลอดเรื่องนี้เป็นการเดินทางที่ยากลำบากสำหรับตัวละครของเราดังนั้นผมจึงคิดว่าเป็นหน้าที่ของผมที่จะเขียน ‘Joy Bombs’ ในช่วงกลางเรื่องเพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขให้ทุกคนหลีกหนีจากเรื่องราวที่เป็นอยู่เหมือนกับตอนที่เราดูThe Lion King แล้วอยู่ๆก็มีเพลง Hakuna Matata ขึ้นมาอย่างไม่คาดคิดและทำให้คุณรู้สึกดี”
“แบร์รี่ เจนกินส์คั ดเลือกนักแสดงได้อย่างเหมาะสมที่สุดทั้งแอรอนปิแอร์ (Aaron Pierre) นักร้องบาริโทนที่เสียงเหมาะกับบทมูฟาซามากเพราะต้นแบบคือเจมส์เอิร์ลโจนส์ (James Earl Jones) จาก The Lion King ที่มีเสียงบาริโทนเช่นเดียวกันรวมถึงเคลวินแฮร์ริสันจูเนียร์ (Kelvin Harrison Jr.) ผู้รับบททาก้าซึ่งผมเป็นแฟนเขาอยู่แล้วจำได้ว่าเคยดูเขาแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Cyrano แล้วประทับใจมากต้องบอกว่านักแสดงทุกคนยอดเยี่ยมจริงๆและผมดีใจมากที่ได้ทำงานร่วมกับพวกเขา” มิรันดากล่าว
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ เดฟเมตซ์เจอร์(Dave Metzger) ผู้ออกแบบดนตรีสำหรับเวอร์ชั่นบรอดเวย์ของ The Lion King มาดูแลดนตรีประกอบต้นฉบับซึ่งเขาได้หาวิธีที่จะนำธีมที่มีอยู่มาใช้ในดนตรีประกอบเพื่อให้รู้สึกสดใหม่ในขณะที่ยังคงสะท้อนถึงสิ่งที่จะพัฒนาไปในอนาคตนอกจากนี้ยังสร้างธีมดนตรีประกอบใหม่ให้กับตัวละครที่ผู้ชมรักอย่างราฟิกิและตัวละครใหม่ที่จะปรากฏตัวในเรื่องนี้เป็นครั้งแรกอย่างเคียร่าหลานสาวของมูฟาซาโดยเมตซ์เจอร์เผยว่าหนึ่งในความสนุกและท้าทายของงานดนตรีในเรื่องนี้คือการพัฒนาธีมของทาก้าและเปลี่ยนแปลงมันให้กลายเป็นสิ่งที่เขาจะเป็นภายหลังในฐานะสการ์
“Mufasa” เป็นเรื่องราวการก้าวขึ้นสู่อำนาจอย่างเหนือความคาดหมายของราชาผู้เป็นที่รักแห่ง Pride Lands ถ่ายทอดผ่านสายตาและคำบอกเล่าของ “ราฟิกิ” ที่ปรึกษาของอาณาจักรที่เล่าตำนานของราชามูฟาซาให้สิงโตน้อย “เคียร่า” ลูกสาวของ “ซิมบ้า” และ “นาล่า” ฟังโดยมี “ทีโมน” และ “พุมบ้า” ช่วยเสริมลีลาการเล่าเรื่องให้สนุกชวนติดตามมากขึ้นเรื่องราวจะเล่าย้อนไปในอดีตตั้งแต่เมื่อครั้งที่มูฟาซายังเป็นลูกสิงโตกำพร้าที่พลัดหลงและโดดเดี่ยวกระทั่งบังเอิญได้พบกับ “ทาก้า” สิงโตหนุ่มทายาทแห่งสายเลือดราชาผู้โอบอ้อมอารีนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวไกลของกลุ่มสัตว์ผู้แตกต่างแต่พิเศษที่ออกเดินทางร่วมกันเพื่อค้นหาโชคชะตาของตัวเองโดยมีศัตรูที่อันตรายและน่ากลัวเป็นบททดสอบความสัมพันธ์
ติดตามได้ทาง X: @DisneyStudiosTH, Instagram: @disneystudiosth, Facebook: @WaltDisneyStudiosTH, YouTube: @waltdisneystudiosth