“คอมม่าแอนด์” (Comma And) มัลติแบรนด์คอนเซ็ปต์สโตร์ชื่อดังที่ครองใจคนรักแฟชั่น ชวนมาสัมผัสมหัศจรรย์แห่งความสุขในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองด้วยคอลเลกชั่นใหม่จากหลากหลายแบรนด์ดังที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นลุคสบายๆ Holiday Getaway หรือชุดสำหรับสายปาร์ตี้ Fashion Party ที่งาน Feel The Wonder ที่ชั้น 1 โซน I เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมนักแสดงสาวชื่อดัง ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์ และเหล่าดีไซน์เนอร์และเจ้าของแบรนด์ อาทิ จิรภัทร คำวาริห์ จากแบรนด์ REN, สิรินธรา อเนกพุฒิ จาก The SRT, วัณณ์พสุ แสนบัณฑิตย์ จาก FRI27NOV, ชัชวาล ปัญญาเมธี จาก Gramicci, ดุริยา ศรีดารณพ จาก OMG และ สุพรรณี จันระวัฒน์ จาก BLACKDOG BKK
กรรณิการ์ วีระพงษ์ Head of Retail Development กล่าวว่า “Feel The Wonder ถูกจัดขึ้นเพื่อสะท้อนตัวตนของแบรนด์คอมม่าแอนด์ในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งแฟชั่นที่ตอบโจทย์ทั้งความหลากหลายและความสร้างสรรค์ พร้อมมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกและไม่เหมือนใครในช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่กำลังจะมาถึง จากการคัดสรรแบรนด์แฟชั่นชื่อดังมากมายที่ตอบโจทย์สไตล์การแต่งตัวในทุกกิจกรรมสำหรับช่วงเวลาปลายปีนี้ผ่าน 2 คอนเซ็ปต์ที่เราสร้างสรรค์ขึ้น ได้แก่ Holiday Getaway ชุดชิลล์ๆ สำหรับท่องเที่ยว และ Fashion Party ชุดสำหรับสายปาร์ตี้ เพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับการช้อปปิ้ง และพร้อมเฉลิมฉลองในสไตล์ที่เป็นตัวเองที่สุด”
Holiday Getaway เสื้อผ้าที่เหมาะสำหรับสวมใส่ในวันสบายๆ สำหรับแบรนด์ที่น่าสนใจในคอนเซ็ปต์นี้ อาทิ แบรนด์ My Only Sunshine, OMG, Painkiller, NWL.BKK, FRI27NOV. และอีกมากมาย
My Only Sunshine ซีซั่นนี้มาพร้อมกับคอลเลกชั่น My Only Sunshine X Nychaa ที่ใช้ชื่อว่า Tuscan Dreams ที่ได้แรงบันดาลใจจากความโดดเด่นของเมือง Tuscany และสถาปัตยกรรมแบบชนบทสไตล์อิตาลี รวมถึงความงดงามของเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ถูกนำมาถ่ายทอดสู่เสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ที่สามารถเติมเต็มลุคสวยในทุกการเดินทาง ถัดมาที่ OMG กับคอลเลกชั่น Granny Glimpse เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับลุคแคชชวลด้วยโทนสีจัดจ้าน อย่างสีแดงและสีน้ำเงิน รวมถึงดีเทลการทำงานคราฟต์ที่ทำให้ชุดมีลูกเล่นสามารถตอบโจทย์สาวๆได้ทุกสไตล์ แบรนด์ต่อมา Painkiller คอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2024 ที่มาในคอนเซ็ปต์ Hilltribe Residency แรงบันดาลใจจากเครื่องแต่งกายของกลุ่มชาติพันธุ์ระหว่างการพำนักบนดอยเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ อันเป็นอัตลักษณ์ที่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันน่าทึ่ง นำมาต่อยอดผ่านการออกแบบเสื้อผ้าโดยผสมผสานงานฝีมือของชาวเขาเข้ากับสตรีทแวร์ฉบับคนเมือง ต่อมาที่NWL.BKK แบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องของการผสมผสานความวินเทจเข้ากับยุคสมัยใหม่ โดยนำเสน่ห์ของเสื้อผ้าวินเทจที่จะมีทั้งสีและเท็กซ์เจอร์อันเป็นเอกลักษณ์มาออกแบบใหม่ด้วยดีไซน์ร่วมสมัย เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้หวนถึงวันวานในอดีต และFRI27NOV. แบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายที่ผสมผสานการแต่งตัวอันไร้ขีดจำกัดและไม่จำกัดเพศเอาไว้ได้อย่างลงตัว
สำหรับคอนเซ็ปต์ Fashion Party ให้ทุกคนได้สนุกกับการแต่งตัวส่งท้ายปี จากแบรนด์ชั้นนำมากมาย อาทิ PONY STONE, Dry Clean Only, The SRT, BLACKDOG BKK, Leisure Projects, Gramicci และอีกมากมาย
PONY STONE แบรนด์ไทยที่นำเสนอแฟชั่นที่สะท้อนความมั่นใจจนสร้างชื่อเสียงดังไกลในระดับโลกกับการปลุกกระแสการออกแบบกางเกงยีนส์ในดีไซน์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ถัดมาที่Dry Clean Only แบรนด์ที่เต็มไปด้วยความครีเอทีฟสุดเท่ที่หยิบเสื้อเก่ามาดัดแปลงใหม่จนขึ้นแท่นเป็นแบรนด์โปรดของเหล่าคนดัง แบรนด์ต่อมาThe SRT ที่มาพร้อมคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2024 ที่ชื่อว่า JOURNEY OF THE MONSTER เป็นคอลเลกชั่นที่แสดงถึงความสนุกสนาน และการยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง บอกเล่าผ่านงานดีไซน์ สีสัน และแพทเทิร์นที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ที่ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยเข้าด้วยกัน ต่อมาที่BLACKDOG BKK กับไอเท็มที่โดดเด่นด้วยลวดลายและดีไซน์สุดเก๋แบบสาวสมัยใหม่ ที่ชื่นชอบการแต่งตัวแบบฉีกทุกกฎเกณฑ์ที่ไร้ขีดจำกัด และLeisure Projects กับคอลเลกชั่นใหม่ที่มาในคอนเซ็ปต์ Dancing under the Moonlight ที่ได้แรงบันดาลใจจากฟูลมูนปาร์ตี้ (Fullmoon Party) ของเกาะพงัน ถ่ายทอดสู่คอลเลกชั่นฤดูหนาวในสไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style) และ Gramicciแบรนด์เสื้อผ้าที่ผสมผสานแฟชั่นสไตล์ Urban Outdoor ได้อย่างลงตัว
ดีไซน์เนอร์สาวสิรินธรา อเนกพุฒิ จากแบรนด์ The SRT เผยว่า “สำหรับวินเทอร์นี้เป็นช่วงที่สาวๆ จะได้สนุกไปกับการแต่งตัว เลือกเสื้อผ้ามาสวมใส่แบบมีเลเยอร์หลากหลายสไตล์ ซึ่งเรามองว่าโทนสีและลูกเล่นของชุดก็จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสดใสในฤดูหนาวนี้ อย่างเสื้อโอเวอร์ไซส์แจ็กเก็ตเพิ่มกิมมิคแต่งด้วยตุ๊กตามอนส์เตอร์ขนไหมพรมให้ลุคที่ดูขี้เล่นซุกซน มิกซ์แอนด์แมทช์กับกางเกงยีนส์ขายาวหรือขาสั้น ให้ลุคที่ดูแคชชวลเหมาะกับวันท่องเที่ยวในวันสบายๆ ส่วนลุควันทำงานก็สามารถเลือกเป็นเสื้อเชิ้ตทรงโอเวอร์ไซส์แมทช์กับกางเกงขายาวให้ลุคที่ดูคล่องตัว หรือหากต้องการความเป็นทางการก็สามารถหยิบเสื้อเบลเซอร์ในเฉดสีเดียวกันกับกางเกงมาสวมทับ ก็จะให้ลุคที่ดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเครื่องประดับที่มีดีไซน์โมเดิร์นมาใส่เลเยอร์แบบหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ โชคเกอร์ ต่างหู กำไลข้อมือ รวมถึงแหวน ก็จะช่วยเสริมลุคให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น”
ชัชวาล ปัญญาเมธี จากแบรนด์ Gramicci กล่าวว่า “ปัจจุบันเทรนด์เสื้อผ้าเอาท์ดอร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การออกไปผจญภัยกลางแจ้งแล้ว เพราะเราสามารถเลือกหยิบแต่ละชิ้นมามิกซ์แอนด์แมทช์ในลุคประจำวันได้อย่างลงตัว ส่วนฤดูหนาวที่กำลังจะมาเยือนนี้ ไอเท็มที่ไม่ควรพลาดเลยคือเสื้อ Puffer สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในหน้าหนาว เพราะด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย มาในโทนสีเอิร์ธโทนซึ่งแมทช์ได้กับทุกลุค แต่ก็ยังไม่ทิ้งคุณภาพในการให้ความอบอุ่น และอีกไอเท็มที่มาแรงคือเสื้อทีเชิ้ตสี Pigment Dye ซึ่งเทรนด์ของเสื้อผ้าสไตล์วินเทจกำลังกลับมาในซีซั่นนี้ ซึ่งเสื้อทีเชิ้ตสี Pigment Dye จะให้ลุคที่ดูออกแนววินเทจมากขึ้น และสีนี้ก็เป็นสีที่สามารถใส่ได้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเหมาะกับคนที่ชื่นชอบลุคสตรีท มิกซ์แอนด์แมทช์ง่ายในชีวิตประจำวัน”
ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์ แนะนำว่า “ส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบการมิกซ์แอนด์แมทช์แต่งตัวได้หลากหลายสไตล์ ชอบที่จะค้นหาเปลี่ยนลุคตนเองอยู่บ่อยๆ อย่างตอนนี้ก็จะชอบแนวการแต่งตัวที่มีกลิ่นอายความเป็นวินเทจหน่อย เพราะรู้สึกสนุกที่ได้มิกซ์แอนด์แมทช์ อย่างลุคในวันนี้ก็เลือกที่จะหยิบเป็นเสื้อเบลาส์แขนพองแมทช์กับกางเกงขาสั้นแต่งระบายผ้าลูกไม้ ให้ความน่ารักสดใส พร้อมสวมเป็นรองเท้าบูทยาวคู่กับถุงเท้ายาวสีขาว ให้ลุคสไตล์วินเทจที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว ส่วนหน้าหนาวนี้คิดว่าการแต่งตัวแนวเลเยอร์ซ้อนเลเยอร์จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยจะหยิบเป็นเสื้อคาร์ดิแกนมาแมทช์กับเสื้อกั๊กไหมพรม พร้อมหยิบผ้าพันคอลายสวยมาเพิ่มความสนุกให้กับลุครับหนาวนี้ และไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับซีซั่นนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นเสื้อคาร์ดิแกน ที่เราจะมีเก็บไว้หลายสี ซึ่งจะเป็นเบสิกคัลเลอร์ที่สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์เข้ากับชุดสีอื่นๆ ได้ง่าย อย่างสีดำ สีเทา สีครีม และสีแดง ซึ่งเราจะเน้นเลเซอร์สวมทับกับเสื้อตัวอื่นๆ เพื่อเติมเต็มลุคให้ดูสวยโดดเด่นมากขึ้นด้วย”