“ทนุเกียรติ จันทร์ชุม” ผู้จัดการคนใหม่ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) เผยแผนการดำเนินงานในช่วงปี 2568-2571 และโชว์วิสัยทัศน์ วางหลักปรัชญา “5T ปฏิรูป 5 ด้านสำคัญสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า” เพื่อแก้ไขจาก “ปัญหา” สู่การ “เปลี่ยนแปลง” อย่างเป็นระบบ พร้อมขับเคลื่อนวงการกีฬาไทยสู่สากล ที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ โดยมีดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในพิธี
นายทนุเกียรติ กล่าวถึงปัญหาหลัก 4 มิติของกองทุน คือ “การดำเนินงานไร้ทิศทาง” เนื่องจากไม่ได้ยึดถือยุทธศาสตร์กีฬาชาติ, “ไม่เป็นเอกภาพ” เกิดความขัดแย้งในองค์กร, “การจงใจละเว้น” ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และสัญญา หรือการเลือกปฏิบัติฯ และ “วงการกีฬาได้รับผลกระทบจากการบริหารจัดการกองทุนฯ” โดยกองทุนฯ จะจัดทำแผนในการปฏิรูปองค์กร และติดตามผลดำเนินงานใกล้ชิด ขณะเดียวกันจะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการมีส่วนร่วมและทำงานเป็นทีมอย่างเป็นระบบ สร้างวัฒนธรรมการยึดถือธรรมาภิบาล ด้านระบบการจัดการที่ยึดถือข้อมูล (Data-Drive Management) เพื่อติดตามผลและประเมินความสำเร็จ ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนจัดทำโครงการหรือกิจกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวก ฟื้นฟูความเชื่อมั่นในวงการกีฬา เปิดช่องทางรับฟังเสียงจากบุคคลในวงการกีฬา รับทราบปัญหาและความต้องการ และดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
นายทนุเกียรติ กล่าวอีกว่า กองทุนฯ เป็นองค์กรชั้นนำในการสนับสนุนและพัฒนาวงการกีฬาไทย ด้วยการบริหารจัดการที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างชาญฉลาด เพื่อยกระดับศักยภาพของนักกีฬาและบุคลากร สู่การสร้างชื่อเสียงและมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทย” โดยมีหลักปรัชญาการเปลี่ยนแปลงคือ แผนงาน “5T ปฏิรูป 5 ด้านสำคัญสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า” ประกอบด้วย T1.ปฏิรูปองค์กร (Organizational Transformation) T2.ปฏิรูปการทำงานด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) T3.ปฏิรูปทักษะและทัศนคติบุคลากร (Workforce Transformation) T4.ปฏิรูปการบริหารความเสี่ยง (Risk Transformation) และ T5.ปฏิรูปการสนับสนุนและพัฒนากีฬา (Service Transformation)
จาก “ปัญหา” สู่การ “เปลี่ยนแปลง” อย่างเป็นระบบ โดยกองทุนฯ ได้วางโรดแมปไว้คือ ปี 2568 ปีแห่งการปฏิรูปโครงสร้าง และวางรากฐานที่มั่นคง, ปี 2569 ปีแห่งการเสริมประสิทธิภาพ และขยายเครือข่าย, ปี 2570 ปีแห่งการขยายผล นำพาการเปลี่ยนแปลง และปี 2571ปีแห่งการประเมินผล มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นภายในเวลา 1 ปี คือ การทบทวนยุทธศาสตร์ ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบบ NSDF Connect สมบูรณ์ พร้อมใช้งาน, สองเส้นทางสร้างอนาคตสำหรับนักกีฬาและบุคลากรกีฬา จากนั้นเข้าสู่ 2 ปีแห่งการเสริมประสิทธิภาพและขยายเครือข่ายโดยมี การจัดกิจกรรมหรือโครงการที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในวงการกีฬาการปรับปรุงระบบการสื่อสารและประชาสัมพันธ์เพื่อขยายการรับรู้และการมีส่วนร่วมของสาธารณชน, ยกระดับกระบวนการทำงานภายในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็วในการเบิกจ่ายการริเริ่มโครงการใหม่ๆ ที่มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือในระดับนานาชาติ เข้าสู่ 3 ปีแห่งการขยายผลนำพาการเปลี่ยนแปลง “กีฬาไทยสู่สากล” จะมี ผลักดันหลักสูตรฝึกอบรมกีฬาไทยสำหรับผู้ฝึกสอนต่างชาติ พร้อมจัดการแข่งขันกีฬาไทยในระดับนานาชาติ, พัฒนา “ศูนย์กีฬาชุมชนต้นแบบ” ในทุกภูมิภาค อบรมผู้นำกีฬาชุมชน กระตุ้นการมีส่วนรวม จัดการแข่งขันกีฬาในระดับชุมชน, พัฒนาระบบวิเคราะห์และพัฒนาศักยภาพนักกีฬา เมื่อครบ 4 ปีแห่งการประเมินผลมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน คือ พัฒนาเกณฑ์และตัวชี้วัดสำหรับการประเมินความยั่งยืนในวงการกีฬา “ดัชนีชี้วัดความยั่งยืนทางกีฬา” พร้อมประเมินและจัดลำดับองค์กรกีฬา, มอบรางวัล พัฒนาศักยภาพนักกีฬาและบุคลากรกีฬาเพื่ออนาคตระบบการประเมินผลกระทบกีฬาแห่งชาติ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญในการวางแผนการพัฒนากีฬาในอนาคต และ สร้างเส้นทางอาชีพและแผนพัฒนารายบุคคลสำหรับนักกีฬาและบุคลากรกีฬา