“มูจิ วัน แบงค็อก” คอนเซ็ปต์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย

“มูจิ” (MUJI) แบรนด์สินค้าชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ โดดเด่นด้วยคุณภาพและราคา เปิดสาขาใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยบนพื้นที่กว่า 3,040 ตารางเมตร ชั้น B1 โซน Parade โครงการ “วัน แบงค็อก” (One Bangkok) ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ของการใช้ชีวิตทั้งสินค้าใหม่และไอเทมยอดนิยมกว่า 5,000 รายการ พร้อมนักแสดงชื่อดัง อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ และ โบว์-เมลดา สุศรี ที่มาเผยไอเท็มที่ชื่นชอบของแบรนด์ และคับคั่งด้วยเหล่าเซเลบริตี้ อาทิ อภินรา ศรีกาญจนา, วาริธร กันท์ไพบูลย์, อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ และอีกมากมาย

อกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มูจิ วัน แบงค็อก เป็นสาขาที่ 38 ที่ยกระดับรูปแบบร้านค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์สโตร์ที่จะเติมเต็มประสบการณ์ช้อปปิ้งของเหล่าคนเมืองให้เป็นมากกว่าการจับจ่ายใช้สอย ในปัจจุบัน มีสินค้าที่หลากหลายครบทุกประเภทซึ่งไม่ต่างจากสาขาหลักในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้ใช้ KOL อย่าง 2 นักแสดงชื่อดังของเมืองไทย คุณอาเล็ก-ธีรเดช และคุณโบว์-เมลดา มานำเสนอไลฟ์สไตล์เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคทุกกลุ่มอีกด้วย”

อาเล็ก เผยว่า “ส่วนตัวมองว่าสินค้าของมูจิช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้ในทุกๆวัน ซึ่งเราชอบสินค้าพวกเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้าน เพราะมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์และตัววัสดุของสินค้าก็มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน ไม่ว่าจะห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องน้ำ คือต้องมีของมูจิไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง รู้สึกเลยว่าสินค้ามูจิเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราจริงๆ”

โบว์ เสริมว่า “ส่วนตัวชอบชอบเสื้อผ้าของมูจิมากๆ เพราะมีดีไซน์เบสิก ในโทนสีแบบธรรมชาติ สวมใส่แล้วดูสวยมีสไตล์ และด้วยความที่เราทำงานทุกวัน ในบางวันอาจจะมีเปลี่ยนชุดหลายลุค ซึ่งเราก็สามารถหยิบเอาเสื้อหรือกางเกงเบสิกของมูจิมาแมทช์กับไอเทมอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย แนะนำว่าทุกคนควรมีเสื้อผ้ามูจิติดตู้ไว้ เพราะนอกจากจะสวมใส่ได้ทุกโอกาสแล้ว ยังใส่สบายมากๆ อีกด้วย”

“มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) รวบรวมทั้งสินค้าใหม่และสินค้ายอดนิยม ประกอบไปด้วยโซนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย (Garments) สำหรับทุกเพศทุกวัย พร้อมคอลเลกชั่น Autumn/Winter 2024 เสื้อผ้ากันหนาวหลากหลายสีสันกับวัสดุและดีไซน์สุดทันสมัย และ Winter Accessories ยังมี คอลเลกชั่น MUJI Labo Autumn/Winter 2024 ชูคุณสมบัติเด่นจากวัสดุธรรมชาติ พร้อมดีไซน์ที่สวยคลาสสิกจากงานฝีมือสุดพิถีพิถัน อาทิ เสื้อโค้ทและเสื้อเสวตเตอร์ผ้าวูลแคชเมียร์ เสื้อโค้ทยาวขนเป็ด เสื้อเชิ้ต เสื้อเบลาส์, โซนสินค้า กระเป๋า รองเท้า หมวก และเครื่องประดับ (Bags & Shoes & Accessories), โซนเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ พบเฟอร์นิเจอร์ โชว์รูม (Furniture Showroom) หรือบ้านมูจิตัวอย่างให้เลือกสรรได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งรวบรวมสินค้าจำเป็นสำหรับห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น, อุปกรณ์ทำความสะอาด, กล่องเอนกประสงค์จัดระเบียบบ้าน รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชันและดีไซน์ที่เรียบง่าย และเปิดตัวสินค้าใหม่ประจำซีซั่น อาทิ โซฟาเป่าลม (Inflatable Air Sofa), ซีรีย์เฟอร์นิเจอร์เหล็ก (Steel Pipe Series) ดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย และกลุ่มเครื่องนอนหลากหลายวัสดุให้เลือก เช่น Flannel หรือ Soybean Fiber

กลุ่มสินค้าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เช่นผลิตภัณฑ์เครื่องหอม, หมอนอิงโซฟาลวดลายน่ารัก (Soft Multi Cushion) การ์ดอวยพร ของตกแต่งในช่วงเทศกาล, โซนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า, ผิวกาย และเส้นผม รวมไปถึงอุปกรณ์แต่งหน้า, เครื่องสำอาง และเครื่องหอมอะโรม่าหลากหลายกลิ่น ที่โดดเด่นในเรื่องของส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี, โซนขนมและอาหารสำเร็จรูปจาก MUJI ความพิเศษของสาขานี้คือ นับเป็นครั้งแรกที่จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าขนมและอาหารแปรรูปที่จะผลิตในประเทศไทย โดยได้รับการพัฒนาและควบคุมการผลิตโดย MUJI Global Standard ในทุกขั้นตอน เช่น ขนมคางกุ้งทอดกรอบ 6 รสชาติ และผลไม้เคลือบช็อกโกแลตแสนอร่อย และเพื่อเอาใจเหลาคนชอบขนมญี่ปุ่น สาขานี้ได้คัดสรรขนมและอาหารญี่ปุ่นนำเข้ามาจากทั่วภูมิภาคจากประเทศญี่ปุ่นกับไฮไลท์ ราเมนหลากรสชาติที่ขึ้นชื่อในแต่ละภูมิภาคจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีขนม MUJI ยอดนิยมให้เลือกสรรมากกว่า 100 รายการ, โซนอุปกรณ์เครื่องเขียนและสำนักงานหนึ่งในประเภทสินค้ายอดนิยมของมูจิ และโซนอุปกรณ์สำหรับการเดินทางที่มีอุปกรณ์ของใช้สำหรับเหล่านักเดินทางที่รวบรวมมาไว้ที่นี่ รวมถึงสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

Exclusive Zone ประกอบด้วย Grab & Go ที่มีคอนเซ็ปต์แนวร้านสะดวกซื้อแบบบริการตนเองที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชาวออฟฟิศ ที่ให้บริการทั้งเครื่องดื่มและเมนูอาหารทานง่าย อาทิ  ข้าวเหนียวหมูปิ้ง, ข้าวปั้นโอนิกิริและชุดเบ็นโตะ รวมทั้งขนมปัง ไอศกรีม 6 รสชาติที่จำหน่ายที่นี่ที่เดียว ได้แก่  ป๊อปคอร์น, ซอล์ทเท็ดคาราเมล, ซีซอล์ท, สตรอว์เบอร์รีซอร์เบต์, แพชชั่นโยเกิร์ตและดาร์กช็อกโกแลต, โซน Green & Outdoor Goods ที่รวบรวมสินค้าต้นไม้, อุปกรณ์ตกแต่งสวน, โต๊ะและเก้าอี้แบบเอาท์ดอร์ที่มีดีไซน์และวัสดุที่หลากหลายให้ได้เลือกสรร, โซน PET Products จำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ชามข้าว, เบาะสัตว์เลี้ยงดีไซน์ต่างๆ และอีกมากมาย

“มูจิ” ยังร่วมกับชุมชนเสริมสร้างความยั่งยืนกับ 8 ร้านค้าท้องถิ่น จำหน่ายงานศิลปะ งานคราฟท์ แฮนด์เมด และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ ในตลาดนัดมูจิ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 1 ธันวาคม 2567 นี้, Refill Station จำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ Normal Refill ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบรีฟิลที่ผลิตจากธรรมชาติ ด้วยส่วนผสมหลักจากผลมะคำดีควายที่เก็บเกี่ยวตามฤดูกาลจากต้นมะคำดีควายที่เติบโตตามธรรมชาติในหุบเขา โดยชาวปกาเกอะญอ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับพืชท้องถิ่นและช่วยสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชน, ReMUJI นำเสื้อผ้าจากคอลเลกชั่นเก่ามาย้อมครามเพื่อเป็นการลดขยะและให้ชีวิตใหม่กับเสื้อผ้า และ Local Products ที่มูจิประเทศไทยได้ร่วมพัฒนากับผู้ประกอบการท้องถิ่น คือผลิตภัณฑ์เซรามิกจาก 2 แบรนด์ที่มาจากจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ InClay Studio และ Charm-learn Studio

นอกจากนั้นยังมีบริการสุดพิเศษที่มีเฉพาะสาขานี้เท่านั้น คือ Embroidery Service บริการปักผ้าที่สามารถนำสินค้าของมูจิ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า ถุงเท้า สนีกเกอร์ มาปักตัวอักษร หรือลวดลายการ์ตูนที่มีให้เลือกกว่า 200 ลาย และ Screen-Printing Service บริการพิมพ์ลายสกรีน (เฉพาะเสื้อผ้าและกระเป๋าผ้าเท่านั้น) เพื่อสร้างความประทับใจและเพิ่มคุณค่าต่อจิตใจของลูกค้า โดยลูกค้าสามารถนำลายที่ตัวเองออกแบบหรือชื่นชอบมาใช้บริการปักหรือพิมพ์ลายสกรีนได้อีกด้วย และเนื่องในโอกาสเปิดตัวสาขาล่าสุด มีลวดลายพิเศษจากการ Collaborate กับ Young Thai illustrator 3 ท่าน คือ ReenP, Atelier Pakawan และ Fahsuwaree

เวิร์คกิ้งวูแมนอภินรา ศรีกาญจนา เล่าว่า “เราเคยเรียนที่ญี่ปุ่นเลยรู้สึกคุ้นเคยกับแบรนด์มูจิเป็นอย่างดี ซึ่งสินค้ามูจินั้นเป็นสินค้าที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและยังโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่เรียบง่ายและมีคุณภาพมาตรฐานจากญี่ปุ่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยทำงานอย่างเรามาก อย่างอุปกรณ์ทำงานก็มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นปากกา สมุดโน้ต กล่องเอกสารและอื่นๆอีกมากมาย”

คุณแม่คนสวยวาริธร กันท์ไพบูลย์ เผยว่า “มูจิเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราและครอบครัวเป็นอย่างมาก สิ่งที่เราชอบคือสินค้าที่มีคุณภาพสูง ดีไซน์ที่เรียบง่ายและราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งมีทั้งสินค้าผู้ชาย ผู้หญิง รวมถึงสินค้าเด็ก เหมาะแก่การพาครอบครัวมาเดินช้อปปิ้งใช้เวลาร่วมกัน อย่างสินค้าที่เรารู้สึกสนใจเหมาะแก่การใช้สอยและตกแต่งในบ้าน คือโซฟาเป่าลม ด้วยดีไซน์ที่มินิมอล สามารถใช้งานได้จริงและยังวางตกแต่งในบ้านร่วมกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว”

แฟชั่นนิสต้าอัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ เล่าว่า “เราเป็นคนที่ชื่นชอบแต่งตัวมิกซ์แอนด์แมทช์เสริมลุคด้วยเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ที่หลากหลาย ส่วนตัวมองว่าเสื้อผ้าแบรนด์มูจิ มีความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่เรียบง่าย ใส่ได้ทุกวัน หากอยากลองปรับลุคให้ดูน่าสนใจก็สามารถที่จะเลือกหยิบเสื้อผ้าชิ้นเบสิก อย่างเสื้อคาร์ดิแกนสีเอิร์ธโทนมามิกซ์แอนด์แมทช์กับกางเกงขาสั้นโทนสีขาวหรือดำ รวมถึงเลือกเครื่องประดับโทนสีทองมาใส่ก็จะได้ลุคที่ดูโดดเด่นมากขึ้น”

โปรโมชั่นสุดพิเศษ คือ รับ Limited Jute Bag ลายพิเศษ MUJI One Bangkok เมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท ร่วมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-โตเกียว จาก All Nippon Airlines, กระเป๋าเดินทาง MUJI และสินค้ามูจิอีกมากมายเฉพาะในวันที่ 1 พ.ย. 2567 ถึง 10 พ.ย. 2567 เท่านั้น, ลูกค้าใหม่ที่แอดไลน์ MUJI Thailand รับ E-Cash Coupon ส่วนลด 300 บาท เมื่อซื้อสินค้าขั้นต่ำ 3,000 บาทตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2567 ถึง 30 พ.ย. 2567

ติดตามได้ทาง Facebook: MUJI Thailand, Instagram: MUJI_Thailand, LINE: @MUJIThailand

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *