ถึงแม้ว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะมีคำสั่งให้ยกเลิกการสั่งสอบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แต่ก็ยังมีคำถามจากโซเชียลที่รอเคลียร์ว่า ทำไมผู้ว่าต้องมาอยู่ต้อนรับในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.05 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27
ได้ข่าวมาว่าท่านกับผู้ว่าไม่ค่อยปลื้มกัน
จังหวัดเดียวครับ นี่ผมพูดในเรื่องทั่วไป น้ำไม่ได้ท่วมที่จังหวัดเชียงรายจังหวัดเดียวท่วมทั้งเชียงใหม่ จริงๆ ลงไปถึงน่านถึงแพร่ ถึงหนองคาย พะเยาโดนหมดเลย เราก็ต้องดูแลพี่น้องประชาชนเป็นหลักไว้ก่อนอย่างที่เรียนก็คือเรื่องของการให้การดูแลบรรเทาภัย จัดของยังชีพที่ต้องไปดูแลเค้าในช่วงน้ำท่วมตรงนี้เรามีมากล้นจริง ๆ ไม่ใช่เฉพาะจากราชการ จากน้ำใจคนไทยทั้งประเทศ อย่างช่อง8ที่ผมเดินเข้ามา ผมเห็นการแพ็คของที่จะไปช่วยพี่น้องน้ำท่วมเห็นแล้วก็ต้องบอกว่าจุกอกเห็นความพร้อมเพียงความเต็มใจของพนักงานของช่อง8
ท่านออกคำสั่งให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดห้ามเกียร์ว่าง
ผมคิดว่าเป็นการวิเคราะห์ของทางสื่อมวลชนไปเองไม่มีใครกล้าไปพูดกับลูกน้องหรอกครับว่าห้ามเกียร์ว่าง แต่ว่าต้องทำงานเชิงรุกนะครับ ผู้ว่าราชการจังหวัดส่วนใหญ่นั่งไม่ติดหรอกครับเมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ส่วนจะทุ่มเทร้อยห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ร้อยเปอร์เซ็นต์ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจเจกบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วผู้ว่าก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
มีผู้ว่าบางท่านไม่ไปต้อนรับท่าน ท่านก็เลยโกรธ
มันก็เป็นความพยายามกระจายข่าวทางด้านโซเชียลมีเดียต้องเรียนก่อนนะครับว่าการเป็นรัฐมนตรีไปที่ไหนเราไม่ได้ต้องการให้ผู้ว่ามาต้อนรับจริง ๆ พวกนี้มาทำให้ขบวนเรายาวขึ้นไปอีก บริหารจัดการยากขึ้นอีกแต่ทำไมต้องมา เราเป็นใครอะ เราอยู่กรุงเทพ เราอยู่ส่วนกลางเราไปในพื่นที่นั้น อันนี้ถ้าพูดถึงว่าไม่ใช่รัฐมนตรีมหาดไทยนะ ถ้าเ ป็นรัฐมนตรีทั่วไปถ้าผู้ว่าไม่มาบอกว่าปัญหาคืออะไรเค้าจะไปทำงานได้ยังไง เพราะว่าไอคำว่าต้อนรับเหมือนกับว่าเป็น บูลลี่ ในทางโซเชียลมีเดีย พวกที่อยากจะบูลลี่อยู่แล้วไม่เข้าใจว่าหน้างานมันเป็นอย่างไร เจอนักการเมืองก็บ่นด่าไว้ก่อน ไม่มีใครต้องการให้ไปต้อนรับหรอกครับแต่ว่าที่มาก็คือมาเพื่อที่จะบอกว่า เค้ามีปัญหาอะไรและมีอะไรให้รัฐมนตรีว่าการคนนั้น ๆ ได้ช่วย อาจารย์ยิ่งศักดิ์ ผู้ว่านี่อำนาจนิดเดียวนะ อะไรที่มันเกินผู้ว่าก็คือคณะรัฐมนตรี ซึ่งการที่รัฐมนตรีลงไปไม่มีใครหรอกครับที่จะไปสร้างภาพ สร้างภาพสร้างอยู่หน้าทำเนียบก็ได้แต่ว่าลงไปพื้นที่แบบนั้นเค้าสามารถที่จะนำ สรุปสถานการณ์ว่า สมมุติว่าเป็นคุณวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปท่านทำได้แต่ในเรื่องของการดูแลคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน แต่ท่านจะไปสั่งรถขุดรถตักรถยกที่ไหน แต่ถ้าท่านไหน ๆไปตรงนั้นแล้ว แต่ถ้าท่านเห็นว่าตรงนี้โครนเต็มไปหมด ท่านสามารถโทรหาผมทันที อันนี้คือหน้าที่รัฐมนตรีสามารถเร่งประสานงานได้ ตรงนี้แหละครับคือสิ่งที่อยากจะทำให้เข้าใจว่าไอคำว่าต้อนรับ ยุคนี้สมัยนี้ไม่มีแล้วครับ แต่ในกรณีของผม ผมเป็นอะไร ผมเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ในบังคับบัญชาของใคร เพราะฉะนั้นไอคนที่บอกรัฐมนตรีมหาดไทยไปผู้ว่าต้องมาด้วยหรือ ถ้าถามผมผมบอกว่าต้องมาครับ เพราะว่ามันตรงตามสายงาน สมัยก่อนไม่ใช่แค่ผู้ว่าจังหวัดนั้นด้วย ผู้ว่าจังหวัดใกล้เคียงเค้าก็จะมาเพราะเราบริหารเป็นกลุ่มจังหวัดครับ ผู้ว่ากลุ่มจังหวัดเหล่านั้นก็บรีฟงานพีเซนต์ปัญหาและการอนุมัติการช่วยเหลือต่าง ๆ มันก็เกิดขึ้น ตรงไหนที่เรียกว่าเป็นการต้อนรับ ไม่มีครับ หรือว่าถ้าเกิดอยากจะเห็นหน้าผู้ว่า ก็นั่งอยู่กระทรวงคอนเฟอเรนซ์คอลก็ได้แต่ไม่เห็นหน้างานเห็นแต่ห้องประชุมหรือจะเรียกมาเมืองทองธานีจัดเรียกประชุมได้สบายเลยจะเอามาเพื่ออะไรกลับการที่เรามากลุ่มเดียวแล้วเราไปได้หมดตรงนี้ผมขี้เกียจไปเถียง ใหญ่โตมาจากไหน ไปถึงจังหวัดและผู้ว่ามาต้อนรับหรอ ท่านรองไปรับราชการที่กระทรวงมหาดไทยท่านก็ต้องรู้ว่าต้องมา อย่างที่บอกว่าการบ่นโดยคนที่ไม่รู้เนี่ย ถ้าไปเถียงก็มีแต่ทะเลาะกัน คนที่เข้าใจนี่เค้าทราบเลย อย่าว่าแต่รัฐมนตรีมหาดไทยเลย วันนั้นนายกก็ไป ถ้าผมเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขท่านไม่ต้องมา แต่ผมเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยถ้าท่านทราบ ท่านต้องมา อย่างน้อยถ้ามาท่านสบายใจว่าโอกาสที่จะถูกไปที่อื่นลดน้อยลงไปอีกเยอะเลย(หัวเราะ) มันมีแต่ปัจจัยเป็นบวกการที่จะมาเจอกัน มีแต่ประโยชน์ส่วนรวมทั้งสิ้น ผมคิดว่าผมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับคอมเมนต์ที่บอกว่าใหญ่โตมาจากไหนต้องมีคนมาต้อนรับ ไม่ใช่นะครับไม่มีใครมาต้อนรับมีแค่มาทำงาน