“Thai Craft Destination” กิจกรรมแสดงผลงานที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวผ่านการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบท้องถิ่นด้วยเสน่ห์ไทย (Soft Power) ด้าน Fashion & Craft นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ สนุกสนานกับกิจกรรมสาธิต Fashion & Craft จาก 6 จังหวัดเมืองสร้างสรรรค์ (Creative City) ต่อยอดต้นทุนทางวัฒนธรรมเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างเสน่ห์แฟชั่นไทยในระดับสากล ณ ชั้น G โครงการเวลา แอท สินธร วิลเลจ หลังสวน กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 กันยายน 2567
นางสาวเด่นเดือน เหลืองเช็ง ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “Thai Craft Destination” นำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวด้าน Fashion & Craft ใน 6 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, แพร่, ขอนแก่น, สกลนคร, นครศรีธรรมราช และปัตตานี พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมสาธิต นอกจากจะเป็นการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์และสื่อสารอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้ได้รู้จักเป็นวงกว้างแล้ว ยังเป็นการต่อยอดต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลกต่อไป
การแสดงผลงานสร้างสรรค์ด้าน Fashion & Craft จากชุมชนท่องเที่ยว 6 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์มีแนวคิดของแต่ละจังหวัด ดังต่อไปนี้
จังหวัดเชียงใหม่ (แดนจักสานและงานไม้)
ภายใต้แนวคิด “Chiang Mai Upcycling” ชาวเชียงใหม่ผูกพันกับธรรมชาติและงานฝีมืออย่างแนบแน่น โดยเฉพาะงานไม้และงานจักสานที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ จึงมีความคิดสร้างสรรค์ในการนำวัสดุที่เหลือจากงานหัตถกรรม หมุนเวียนกลับมาสร้างเป็นสินค้าใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
จังหวัดแพร่ (แดนหม้อห้อม)
ภายใต้แนวคิด “Retreat Phrae” การนำวัตถุดิบท้องถิ่นอย่าง “ห้อม” พืชที่ให้สีน้ำเงิน และเติบโตได้ดีท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดแพร่ นิยมนำมาย้อมผ้าสำหรับสวมใส่ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่นและสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนมาช้านาน จากงานหัตถกรรมดั้งเดิมจึงได้รังสรรค์ขึ้นใหม่ผ่านแรงบันดาลใจจากธรรมชาติสู่การพัฒนารูปแบบสินค้าห้อมให้ทันสมัย
จังหวัดขอนแก่น (แดนมัดหมี่)
ภายใต้แนวคิด “Circular Phuvieng” ผ้ามัดหมี่ร่วมสมัยจากแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจังหวัดขอนแก่นสามารถลดการนำเข้าวัตถุดิบใหม่ และหันมาใช้ทรัพยากรที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เศษเส้นไหมมากมายจากการทอผ้าถุงถูกนำมาออกแบบเทคนิคการทอใหม่ เกิดเป็นลายใหม่ที่แลดูคล้ายการทับซ้อนของชั้นหินฟอสซิลในอุทยานธรณีภูเวียง ประสานกับการจับคู่สีทำให้ดูร่วมสมัย เกิดเป็นผืนผ้าที่นำไปต่อยอดเป็นสินค้าอื่นๆ ได้อีกมากมาย
จังหวัดสกลนคร (แดนสีคราม)
ภายใต้แนวคิด “Keep Kram @ Sakon Nakorn” ครามสกล เป็นเอกลักษณ์เสน่ห์ไทยประจำท้องถิ่น สีครามเป็นสีที่อยู่กึ่งกลางระหว่างยามราตรีและท้องทะเลลึกที่เรารู้จักกันในชื่อ “เนวี่บลู” จัดอยู่ในประเภท “สีเย็น” ซึ่งมีคุณสมบัติเมื่อนำไปผสมกับสีอื่นๆ จะทำให้เกิดสีใหม่ที่ยังแฝงเอกลักษณ์ของสีครามเอาไว้ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจิตใจ บอกเล่าผ่านภาพของทิวเขาภูพานบนผืนผ้าคราม บรรจงปักด้วยเส้นไหมหลากสีสันที่ สะท้อนภาพความสัมพันธ์ของผืนป่าและชุมชนอย่างชัดเจน
จังหวัดนครศรีธรรมราช (แดนถมนคร)
ภายใต้แนวคิด “Nakorn Sri Reserve : ขลังนคร” งานถมนคร ศิลปะโบราณที่สร้างสรรค์ลวดลายสีเงินและดำอันประณีต เป็นงานศิลปหัตถกรรมชั้นสูงที่คนนครศรีธรรมราช และคนไทยภาคภูมิใจมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต้องรักษาให้คงอยู่ในบริบทปัจจุบัน โดยประยุกต์ใช้เทคนิคและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ ทำให้เกิดรูปแบบที่มีทั้งความสวยงาม ร่วมสมัย มีคุณค่า และยังคงความเป็นอัตลักษณ์จากภูมิปัญญาดั้งเดิม
จังหวัดปัตตานี (บาติกแดนใต้)
ภายใต้แนวคิด “Diversity Pattani” การผสมผสานอย่างกลมเกลียวของพหุวัฒนธรรมในปัตตานี ก่อให้เกิดความสวยงามของทรัพยากรธรรมชาติ มรดกทางวัฒนธรรมของพื้นที่
ติดตามได้ที่ www.tourismproduct.tourismthailand.org, 1672 Travel Buddy