“Amazing Thailand: Meet the Influencer 2024” โดยการสนับสนุนจากบริษัท แอสเสทเวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC และความร่วมมือจากสมาคมครีเอเตอร์ท่องเที่ยวเพื่อสานสัมพันธ์เครือข่ายออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว โดยเชิญ Influencer สายท่องเที่ยวจำนวนกว่า 360 ราย จาก 209 สังกัด ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ด้านการท่องเที่ยว เสริมทักษะกระตุ้นกระแสการท่องเที่ยวผ่านคอนเทนต์ออนไลน์ และร่วมกิจกรรม Speed Dating รูปแบบ B2B กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยและ ททท. สำนักงานในประเทศ พร้อมทิศทางส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ปี 2568 กับ Amazing Thailand Grand Tourism Year ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน Influencer และสื่อออนไลน์ ถือเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่เป็นอย่างมาก และการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและนอกอุตสาหกรรมแบบ 360 องศา (Partnership 360o) ผลักดันกลยุทธ์ Influencer Marketing เชิญพันธมิตรสื่อออนไลน์ด้านท่องเที่ยวของไทย ตั้งแต่ระดับ Pico Influencer ไปจนถึง Mega Influencer รวมทั้งสิ้นกว่า 360ราย เพื่อพบผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย 86 หน่วยงานและผู้แทนจาก ททท. สำนักงานในประเทศทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ Influencer ได้มาทำความรู้จักกันและสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการท่องเที่ยวและต่อยอดทางธุรกิจร่วมกันต่อไปในอนาคต
งานประกอบด้วย Breakout Session อัปเดตเทรนด์และเจาะลึกทุกมิติคอนเทนต์ท่องเที่ยว กับ 3 หัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ ได้แก่ “2025 Upcoming Social Media Trend” โดยนายพุทธศักดิ์ ตันติสุทธิเวท รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด “Vlog-Life Balance” โดยนางสาว กิตติ์ธัญญา เวชกุลไชยพงศ์ เจ้าของเพจ KP ตะลอนแหลก และ “Exploring the Impact of Communication Strategies & Creativity on Sustainable Tourism” โดย นางสาวศศิภาส์ มงคลนาวิน บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ภายในงาน ยังได้คัดสรร กิจกรรมประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทยนำเสนอเสน่ห์ไทยด้วยบูธอาหารท้องถิ่นจากภูมิภาคต่าง ๆได้แก่ น้ำมะพร้าวและไอศกรีมกะทิ จ.ฉะเชิงเทรา ลามปาล์มโซดา (โตนด) จ.เพชรบุรี ขนมจีนบ้านหนุน จ.นครศรีธรรมราช ส้มตำไก่ยางเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น Lobster City @Bantadthong เค้ก Cocokup จ.นครปฐมและกิจกรรม DIY ได้แก่ กิจกรรมทำพวงกุญแจจากเศษผ้าร้อยลูกปัดเซรามิก จ.ลำปาง ตกแต่งพิซซ่าหน้าไกยี แสงทองพิซซ่า จ.น่าน และ DIY น้ำปั่นผลไม้ Health Me Sis มาให้Influencer ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ นำไปสู่การออกเดินทางจริงในแต่ละพื้นที่และกิจกรรม Networking Dinner นำเสนอเสน่ห์ไทย (Soft power) หลากหลายรูปแบบผ่านการนำเสนอสินค้าและบริการของพันธมิตรผู้ประกอบการท่องเที่ยว
ททท. ยังได้อัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยวและนำเสนอนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ที่จะดำเนินการในปี 2568 แก่เครือข่าย Influencer และสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกัน Drive Demand ผ่านการผลิตคอนเทนต์ท่องเที่ยวออนไลน์สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเน้นย้ำ Key Message สำคัญผ่านแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย”ชวนคนไทยออกไปสุขทันทีที่ได้ไปใช้เวลาท่องเที่ยวกับคนที่รัก สิ่งที่รัก โดยมีเสน่ห์ไทย และเมืองน่าเที่ยว เป็น Highlight Product ค้นหาจุดขายและอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ พร้อมนำเสนอเชื่อมโยงกับแนวคิด 5 Must Do in Thailand และแน่นอน “การมุ่งสู่ความยั่งยืน” ยังคงเป็นหัวใจและหมุดหมายสำคัญของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ททท. ตั้งใจจะพัฒนาแบรนด์ Amazing Thailand ให้เป็นแบรนด์ท่องเที่ยวไทยที่มุ่งสู่ความยั่งยืนบนเสน่ห์ไทยและความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านโครงการต่าง ๆ ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือ Thailand Tourism Awards, CF Hotels และ STGs STAR นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือเครือข่าย Influencer และสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว ร่วมกันประชาสัมพันธ์การจัดบิ๊กอีเวนต์หลากหลายรูปแบบทั่วประเทศที่จะมาสร้างสีสันความสนุกสนานชวนชาวไทยออกไปท่องเที่ยวรับความสุขกันให้เต็มที่ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ อาทิ มหกรรมเสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค, VIJITR 5 ภาค, Vijitr Chao Phraya, งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2567 และส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่เช่นเคยกับ Amazing Thailand Countdown 2025