Oh L’Amour รวบรวมภาพวาดล่าสุดของ Myrtille Tibayrenc ที่สร้างขึ้นในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาและได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาดในยุคเรอเนซองส์และยุคกลางที่ศิลปินได้สำรวจระหว่างการเดินทางไปยุโรปในเดือนเมษายน 2024 รวมถึงภาพถ่ายที่เธอถ่ายกับเพื่อนและนางแบบจากกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ณ สมาคมฝรั่งเศสเชียงใหม่ 7 ก.ย. – 20 ต.ค. 2567
นิทรรศการนี้นำเสนอองค์ประกอบทางธรรมชาติ เช่น สัตว์และพืช ช่วยเพิ่มความรู้สึกเชิงสัญลักษณ์ให้กับผลงานชุดใหม่นี้ งูเป็นองค์ประกอบสำคัญและทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์เหนือกาลเวลา ซึ่งพบได้ในตำนานและศาสนาต่างๆ งูเป็นสัญลักษณ์ที่เย้ายวนและน่ารังเกียจในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่ศิลปินชอบใส่เข้าไปในผลงานของเธอ นอกจากนี้ Myrtille ยังนำเสนอการตีความใหม่ต่อตำนานเก่าๆ เช่น ตำนานของ Daphne ที่แปลงร่างเป็นต้นลอเรลเพื่อปกป้องเธอจากการข่มขืนของ Apollo ความสงบสุขในการแสดงออกของผู้หญิงขณะที่เธอแปลงร่างซ่อนความรุนแรงที่แฝงอยู่ในตำนานนี้ การใช้ใบไม้สีทองและเทคนิคสีน้ำมันบนไม้แบบคลาสสิกทำให้ภาพดูไร้กาลเวลายิ่งขึ้น
ซีรีส์ที่ชวนฝันนี้ถูกจัดวางคู่กับผลงานที่มืดหม่นและหยาบกระด้าง โดยส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีรอยแผลเป็นในโทนสีม่วงอมฟ้าถูกจัดวางบนพื้นหลังสีดำ รอยแผลเป็นเป็นเส้นเรื่องในภาพวาดของ Myrtille ภาพเหล่านี้ทำให้เรานึกถึงภาพทางการแพทย์ที่เสริมแต่งด้วยกระต่ายในห้องทดลองสีขาว Myrtille หลงใหลในภาพถ่ายทางการแพทย์มาโดยตลอด และเติบโตขึ้นมาโดยใช้เวลาหลายชั่วโมงในการดูหนังสือของพ่อซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ เธอเปรียบเทียบภาพทางการแพทย์ที่ยังไม่ผ่านการปรุงแต่งเหล่านี้กับภาพวาดของผู้พลีชีพที่พบในภาพของคริสเตียน
ผลงานอีกชุดหนึ่งที่วาดบนไม้รีไซเคิลขนาดเล็ก แสดงให้เห็นสัตว์และแมลงตัวเล็กๆ ที่ศิลปินพบว่าติดอยู่ในสตูดิโอของเธอ สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ เหล่านี้ซึ่งวาดด้วยรายละเอียดอันวิจิตรงดงามนั้นเปรียบเสมือนการทำสมาธิทุกวัน ซึ่งเตือนเราว่าสิ่งพิเศษอยู่รอบตัวเราและสามารถพบได้ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ
