“Timeless Treasures” สุดยอดจิวเวลรีหรู “ชวนา”

“Timeless Treasures: From the Far East; Influence of Oriental Aesthetics” นิทรรศการครบรอบ 110 ปีของแบรนด์เครื่องประดับ “ชวนา” (CHAVANA) ที่รวบรวมผลงานของสะสมโบราณและเครื่องประดับระดับมาสเตอร์พีซ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากอารยะธรรมตะวันออกที่สะท้อนความเป็นนิรันดร์แห่งความงดงามของศิลปะตามแนวโอเรียลตัลลิสม์ (Orientalism) ณ แกลเลอรี ATT 19 เจริญกรุง 30 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 สิงหาคมนี้

อรุษา ศิริไกร ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารการตลาดแบรนด์ “ชวนา” (CHAVANA) กล่าวว่า “เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 110 ปี ของธุรกิจการทำเครื่องประดับชั้นสูงจากบรรพบุรุษ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1914 จากร้านเล็กๆ เติบโตสู่ธุรกิจส่งออกเครื่องประดับระดับไฮเอนด์กลายเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล ซึ่งเรานับเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล จึงได้ก่อตั้งแบรนด์ “ชวนา” เพื่อสืบสานการทำเครื่องประดับชั้นสูงที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นด้วยผลงานจากช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ ซึ่งในโอกาสพิเศษนี้เราจึงอยากนำงานเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามและหาชมได้ยากมาจัดแสดงให้ทุกคนได้สัมผัสด้วยสายตาตนเอง จึงได้ร่วมมือกับทางแกลเลอรี่ศิลปะอันเลื่องชื่ออย่าง ATT 19 จัดนิทรรศการ “Timeless Treasures” เพื่อนำเสนอผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ “ชวนา” โดยเราได้รวบรวมชิ้นงานล้ำค่ามาจากนักสะสมทั้งไทยและต่างชาติกว่า 70 ชิ้น มาร่วมจัดแสดงกับของสะสมโบราณจาก ATT 19 เพื่อสะท้อนแรงบันดาลใจและความเชื่อมโยงความงดงามของโลกตะวันออกจากในอดีตสู่ปัจจุบัน ซึ่งงานครั้งนี้นับว่ามีความพิเศษเป็นอย่างมาก และอยากให้ทุกคนที่ชื่นชอบในงานจิวเวลรีและศิลปะได้มาสัมผัส”

“ชวนา” ได้สืบทอดและอนุรักษ์เทคนิคการทำเครื่องประดับสไตล์ยูโรเปียนคราฟส์แมนชิพ (European Craftsmanship) จากบรรพบุรุษ โดยได้หยิบยกเรื่องราวจากงานศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ในแง่มุมต่างๆ จากทั่วโลกหลากหลายยุคสมัยมาตีความใหม่ผสมผสานความเรียบโก้สไตล์โมเดิร์น ถ่ายทอดสู่เครื่องประดับที่มีความประณีตในทุกมิติของรายละเอียด เต็มเปี่ยมไปด้วยงดงามเหนือกาลเวลา ขับเน้นให้แต่ละคอลเลกชั่นนั้นเฉิดฉายด้วยคาแรกเตอร์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเทคนิคและกระบวนการทักษะงานช่างชั้นสูง ที่จัดว่าเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ได้แก่ “Beaded Edge” การเรียงร้อยเม็ดบีดส์ที่มีขนาดเล็กไปตามขอบของตัวเรือน โดยช่างฝีมือได้ใช้มือขึ้นรูปและรังสรรค์เม็ดบีดส์เล็กๆ เหล่านี้ด้วยความแม่นยำทีละเม็ดเพื่อให้มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เล็กกว่า 0.25 มิลลิเมตร “Gemstone Mosaic” เทคนิคการประดับโมเสกอัญมณีด้วยอัญมณีคุณภาพสูงที่หลากสีสันและรูปร่างมาเรียงร้อยราวกับภาพวาดเพื่อให้เกิดความวิจิตรงดงาม “Petit-Point” เทคนิคการเย็บปักถักร้อยแบบฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมในศตวรรษที่ 18 และใช้ในการทำงานผ้าที่มีความหรูหรา เทคนิคนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับโลหะ ผ่านการฝนทองคำให้บางและละเอียดจนดูเหมือนเส้นไหม “Embroidered Gold” เทคนิคการถักทอลวดลายบนโลหะ มีการยกนูนด้วยการตอกและการฉลุเพื่อสร้างเอฟเฟกต์หลายมิติคล้ายกับการปักไหมที่มีลวดลายอยู่บนพื้นหลัง ชิ้นงานจะมีลวดลายหลักที่โดดเด่น แต่มีองค์ประกอบโดยรอบที่มีการดุนลวดลายให้ต่างระดับลดหลั่นกันไป ทำให้เกิดการสร้างชิ้นงานสามมิติ ความพริ้วไหวของลวดลายที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

นิทรรศการนี้ได้จัดโชว์ผลงานเครื่องประดับล้ำค่ามากมายที่มาจากคอลเลกชั่น The Momentous ผลงานชิ้นเอกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมและอารยธรรมโลกตะวันออกที่ค้นหาและค้นคว้าจากตำนานเรื่องเล่าและเทพนิยาย นำมาสู่ธีมการสร้างสรรค์ผลงาน One-of-a-kind Wonders ประกอบด้วย “กำไลข้อมือหลงเหมิน” เครื่องประดับที่ถ่ายทอดตำนานที่โด่งดังของจีน เรื่องราวเกี่ยวกับปลาคาร์ฟที่สามารถกลายร่างเป็นมังกรได้ โดยการว่ายทวนกระแสน้ำขึ้นไปจนถึงน้ำตกที่เรียกว่าประตูมังกร “เข็มกลัดมังกร” มังกรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ความแข็งแกร่ง และโชคลาภ เป็นสัตว์ที่มีเมตตา มักถูกวาดภาพเป็นผู้คุ้มครองผู้คนและผู้นำพาฝนที่จำเป็นต่อการเกษตร “เข็มกลัดผีเสื้อ” ผีเสื้อเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข และความโรแมนติก ในงานศิลปะจีนผีเสื้อมักถูกวาดคู่กับดอกไม้ซึ่งเป็นตัวแทนของชีวิตที่มีความสุขและรุ่งเรือง “เข็มกลัดหมูมังกร” หมูมังกรถูกเชื่อว่าเป็นตัวแทนของมังกรแรกในวัฒนธรรมจีน และอีกด้านหนึ่งถูกการแกะสลักเป็นรูปมนุษย์ที่แทนเทพเจ้าพระอาทิตย์ และ “อิเคบานะบนแจกันหยกสีลาเวนเดอร์” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์โชกะของอิเคบานะ ซึ่งเป็นประเพณีโบราณของญี่ปุ่นที่ถูกกำหนดในสมัยเอโดะ เพื่อจัดแสดงดอกไม้ในรูปแบบสามกิ่งไม่สมมาตร แทนสัญลักษณ์ของสวรรค์ มนุษย์ และโลก

เซเลบริตี้สาวสังคม ริก้า ดีล่า เผยว่า “เรามองว่าเครื่องประดับชั้นสูงนั้นมีคุณค่ามากกว่าแค่เพียงความสวยงามภายนอก เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะ หัตถกรรมชั้นสูง และวัสดุล้ำค่า รวมเป็นชิ้นงานที่เอกลักษณ์ที่โดดเด่น ซึ่งแบรนด์ชวนา เป็นแบรนด์ที่เราชื่นชอบมาก เพราะเป็นเครื่องประดับที่มีความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ เวลาที่เราหยิบมาประดับบนเรือนร่างก็จะช่วยขับลุคของเราให้ดูโดดเด่นมากขึ้นสำหรับเครื่องประดับมาสเตอร์พีซชิ้นไฮไลท์ที่โชว์ภายในนิทรรศการครั้งนี้ ส่วนตัวชอบเข็มกลัดผีเสื้อที่ทำจากหยก เพราะมีความงดงามและคิดว่าสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ประดับบนชุดได้หลากหลายลุค และยังมีความหมายที่ดีเกี่ยวกับความรักและความโรแมนติกด้วย“

สาวเวิร์คกิ้งวูแมน อภินรา ศรีกาญจนา เล่าว่า “ส่วนตัวเราชื่นชอบเครื่องประดับชั้นสูงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน อย่างงานของชวนาทุกชิ้นจะเห็นว่าทำด้วยฝีมือช่างชั้นสูงที่มีความละเอียดประณีต โดยเฉพาะเทคนิคยูโรเปียนคราฟส์แมนชิพที่เป็นเทคนิคที่มีมานานและมีความงดงาม ทำให้เครื่องประดับดีไซน์ออกมาได้อย่างสวยงาม เวลาสวมใส่ก็ช่วยเสริมลุคเราให้ดูโก้หรู ส่วนในงานนิทรรศการครั้งนี้ ชิ้นที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษคือกำไลหลงเหมิน เพราะว่าเป็นชิ้นที่มีดีเทลการประดับเพชรที่สวย และยังมีความหมายที่ดีด้วย เป็นชิ้นที่ควรค่าแก่การสะสมมากๆ”

ดีไซเนอร์สาว ภิพัชรา แก้วจินดา เผยว่า “ส่วนตัวมองว่าเครื่องประดับชั้นสูงเป็นเครื่องประดับที่ทรงคุณค่า ด้วยความละเอียดประณีต การใส่ใจในรายละเอียดของช่างฝีมือ รวมถึงมีความเป็นเอกลักษณ์ และมีความไทม์เลสที่สามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นเป็นมรดกได้ อย่างแบรนด์ชวนาเองก็เป็นเครื่องประดับที่มีเรื่องราวมาอย่างยาวนาน เป็นครอบครัวที่ทำจิวเวลรี่จนมาถึงรุ่นที่ 4 และยังมีผลงานที่สวยประณีตมีเอกลักษณ์โดดเด่นน่าเก็บสะสม ส่วนชิ้นที่ชอบคืออิเคบานะบนแจกันหยกสีลาเวนเดอร์ ที่เป็นเครื่องประดับที่โดดเด่นด้วยอัญมณีหลากสีเรียงร้อยต่อกันเป็นรูปดอกไม้ในแจกันตามประเพณีญี่ปุ่นสวยงามน่าประทับใจมาก”

ติดตามได้ที่ IG: chavana_official, www.chavanajewelry.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *