“คิมม่อน วโรดม” ย้อนอดึตเด็ก “วินมอเตอร์ไซด์”

นักแสดงหนุ่ม “คิมม่อน-วโรดม เข็มมณฑา” พลิกคาแร็กเตอร์สุดขั้วกับบทวินมอเตอร์ไซด์ “ป๊อบ” ที่ต้องพูดภาษาอีสานด้วยในละครคอเมดี้ฟีลกู้ดส่งเสริมอาชีพอย่าง “รู้จักพี่ยาใจไหม?” ผลิตโดย ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ร่วมกับ บริษัท สตาร์ฟีนิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กำลังออกอากาศสร้างความสนุกให้กับคนดูทุกคืนวันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 และ www.VIPA.me

“รู้จักพี่ยาใจไหม?” เป็นละครที่รวบรวมนักแสดงคุณภาพไว้หลายคน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง อาโย-ทัศน์วรรณ เสนีย์วงค์ ณ อยุธยา  หรือนักแสดงคุณภาพอย่าง เนสท์-นิศาชล สิ่วไธสง, โอ-อนุชิต สพันธุ์พงษ์, ลิฟท์-สุพจน์ จันทร์เจริญ รวมทั้งนักแสดงรุ่นใหม่อย่าง รัตนวดี  วงค์ทอง และฐิตินันท์  คลังเพชร โดยเฉพาะนักร้องไอดอลหนุ่มที่หันมาเอาดีด้านการแสดงอย่าง คิมม่อน ที่เจ้าตัวบอกว่า ชอบคาแร็กเตอร์ในละครเรื่องนี้สุดๆ เพราะได้แสดงความสามารถด้านการแสดงอย่างเต็มที่

“ตอนอ่านเรื่องย่อ เราไม่รู้ว่ามันคอมเมดี้ขนาดไหน รู้แต่ว่ารับบท วินมอเตอร์ไซค์ซึ่งเอาจริงมันเป็นปมที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของผม  เพราะตอนเด็ก ผมก็เหมือนตัวละครตัวนี้ เพราะเคยไปขับรถเดลิเวอรี่หารายได้เสริม เป็นงานพาร์ทไทม์ของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยี่ห้อหนึ่ง เมื่อก่อนยังไม่มี Grab ไม่มี LINE MAN ก็ขับรถรอบละ 20 บาท ทำตอนปิดเทอมประมาณสามเดือนเป็นพาร์ทไทม์ ก็ทำทุกๆปิดเทอม เพื่อหารายได้ ผมทำอยู่หลายปีเลยรู้สึกชอบการขับมอเตอร์ไซค์ แล้วผมเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์คล่องอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าง่ายมาก กับการรับบทวินมอเตอร์ไซด์ในเรื่องนี้”

ไม่ใช่แค่วินมอเตอร์ไซด์เท่านั้น “ป๊อบ” ยังเป็นหนุ่มอีสานสู้ชีวิต รับจ้างทำทุกอย่าง แถมยังต้องพูดอีสานได้คล่องด้วย งานนี้ทำเอา คิมม่อน แอบเครียดอยู่เหมือนกัน

“เรื่องแรกในชีวิตที่ต้องพูดอีสาน ถึงแม่เป็นคนอีสาน แต่ผมพูดอีสานไม่ได้เลย แม่เป็นคนยโสธร พ่อเป็นคนกรุงเทพฯ ผมโตที่นี่ เพราะแม่ผมเป็นครูที่สมุทรปราการ เท่ากับว่าเกิดและโตที่สมุทรปราการ ทีนี้มันก็จะมีความยาก ถ้าเกิดว่าเราต้องพูดอีสาน แล้วพูดหลายฉากมาก เมื่อไหร่ที่ตัวละครที่ผมเล่น เจอคนอีสาน เค้าก็จะพูดอีสานใส่กันทันที แล้วในเรื่องวินมอไซค์ก็คนอีสาน แม่ค้าส้มตำ แม่ตัวเองก็คนอีสาน แล้วมันไม่ได้แค่พูดอย่างเดียว มันเกี่ยวกับอารมณ์ด้วย เครียดมากจริงๆ  โชคดีที่อีกมุมนึงผมรู้สึกว่า ผมมาทำงานกองนี้ทุกวันด้วยความสุขมาก ๆ เอนเนอร์จี้เต็มร้อย พร้อมที่จะมาสร้างสีสันความสนุก เพราะตัวละครมันตลก แต่ถ้าวันไหนมีฉากต้องพูดอีสาน วันนั้นผมก็จะขับรถมามีแต่ความกังวลเต็มไปหมด เพราะตอนแสดงผมไม่อยากให้ต้องเทค งานล่าช้าเพราะเรา  เอาจริงๆเรื่องสำเนียงยังไงคนอีสานเค้าก็ฟังออก  ผมก็พยายามแสดงอย่างเต็มที่  และก็ผ่านมาไปได้ด้วยดี  ผมโชคดีได้พี่ ๆ ทีมงานที่เป็นคนอีสานช่วยสอนให้ได้ค่อยๆ เรียนรู้พัฒนาหลายๆ อย่าง จากวันแรกที่เราพูดภาษาอีสานจะแปลกๆ แต่พอมาหลังๆ ทุกคนก็จะบอกว่าผมก็เหมือนคนอีสานแล้ว   เป็นการพัฒนาเรื่อยๆ ครับ”

ไม่เพียงแค่นั้น คิมม่อน จะต้องไปเวิร์คช็อปเรื่องการนวดด้วย “การนวด เป็นอีกเรื่องนึงที่ต้องศึกษา เพราะตัวละครก็มีเคสนวดเยอะเหมือนกัน แล้วในฉากก็มีฉากที่ต้องออกไปหางานนวดเอง ก็เลยทำให้มีการนวดค่อนข้างเยอะ ทำให้ผมต้องไปตะเวนนวดเพื่อเรียนรู้และต้องไปเวิร์คช็อปการนวดเพิ่มเติมประมาณสองครั้ง แล้วก็มีครูมาสอนให้ส่วนตัวอีกหลายครั้งด้วย  แถมมีไปเรียนเพิ่มพวกวิธีกดจุดต่างๆ วิธีเปิดกะบังลม ถือเป็นศาสตร์ที่น่านับถือมาก เพราะเราต้องอยู่กับอะไรซ้ำๆ ถือว่าเป็นอะไรที่เสียสละมาก ต้องเป็นคนที่ใจรักมากจริงๆ ที่ต้องมานั่งทำให้ทุกคนผ่อนคลาย แต่ตัวเองเจ็บ จริงๆ การนวดเจ็บมาก ผมรู้สึกว่ามันเจ็บที่นิ้ว โดยจากที่เราเรียนมันเป็นนวดโบราณ เป็นการนวดเพื่อรักษา มันก็จะใช้นิ้วโป้งเป็นหลัก มันไม่ได้ใช้ทั้งมือ พอใช้นิ้วโป้งเป็นหลัก นิ้วโป้งก็จะปวด  แบบคนอื่นเจ็บปวดมา เรานวดรักษาคนอื่น แต่เราก็จะเจ็บเมื่อยล้าแทนเป็นศาสตร์ที่ยาก และรู้สึกเป็นอาชีพที่ยากด้วย จากการที่ได้มีโอกาสสัมผัสอาชีพนี้ ทำให้ผมเข้าใจอาชีพนี้มากๆ รวมไปถึงเข้าใจแล้วว่าทำไมเค้าถึงเรียกว่า หมอนวด ไม่เรียกว่า คนนวด เพราะเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถ ต้องศึกษาเกี่ยวกับร่างกายที่เรามองไม่เห็น การกดเข้าไปเส้นนั้นเส้นนี้ แล้วมันหายนะ ผมเลยนับถือและก็เข้าใจ ฉะนั้นต่อไปนี้ถ้าจะไปนวด ก็จะรู้สึกขอบคุณหมอนวดมากๆ เพราะว่าเขาต้องศึกษามาอย่างดีครับ”

ติดตามได้ที่ Facebook, YouTube, X (Twitter), LINE, TikTok, Instagram: Thai PBS, www.thaipbs.or.th, Application: Thai PBS

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *