“สีดา พัวพิมล” นักแสดงรุ่นเก่าที่ห่างหายจากการเล่นภาพยนตร์มานานร่วม 30 ปี และ “บรอนต์ ปาลาเร่” นักแสดงมากฝีมือจากมาเลเซียที่เคยฝากผลงานความผวาไว้ในภาพยนตร์สยองขวัญเลือดสาด “Satan’s Slaves บ้านเกิดปีศาจ” ทุ่มสุดตัวให้กับ “แดนสาป The Cursed Land” ภาพยนตร์สยองขวัญน่าจับตาแห่งปี เนรมิตรหนัง ฟล์ม และ ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ พิสูจน์ได้ในวันที่ 11 กรกฎาคม ในโรงภาพยนตร์
‘สีดา พัวพิมล’ กลับมาในบท ‘ไซหนับ’ หมอผีที่จะมากำราญญินร้ายให้กับ มิตรและเมย์ ในภาพยนตร์เรื่องแดนสาป นับว่าเป็นศึกหนักที่เธอต้องรับมือเลยก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงแค่เธอจะร้างจากวงการไปนานเท่านั้น แต่ในการรับบทนี้เธอยังต้องพูดภาษามลายูที่เธอเองไม่ถนัดตลอดทั้งเรื่อง
“ต้องพูดภาษามลายูเป็นครั้งแรก ก็หนักใจอยู่เหมือนกันนะคะ แต่พอเล่นไปแล้วก็โอเคลุล่วงไปได้ด้วยดีเพราะว่าเราต้องทำให้ได้ เนื่องจากว่าทางน้องต้อยผู้กำกับแล้วก็คุณอุ๋ย-นนทรีย์เป็นคนเลือกมาให้รับบทตัวนี้ เขาบอกว่าเป็นคาแรกเตอร์ที่เหมาะ ในเมื่อเขามั่นใจในตัวเราขนาดนี้ก็รู้สึกว่าเราต้องทำให้ได้ ดีที่ได้ครูดี ก็คือครูเนกับครูน้องช่วยกันแล้วก็อธิบายความหมายว่าอันนี้มันความหมายแบบนี้ๆ นะ ในไดอะล็อกไทยมันก็ทำให้เราเข้าใจขึ้น ทีนี้เราก็เลยพูดได้ แอ็กติ้งได้ เพราะเขาสอนดีมาก”
ภาณุ อารี ผู้กำกับ เล่าว่า “แม่สีดาเป็นเซอร์ไพรส์ของเซอร์ไพรส์มากๆ ตัวละครนี้จริงๆ คือเราต้องการคนที่มีความสามารถ คือเราต้องพูดภาษามลายูให้ได้ แล้วก็ต้องมีความมีออร่าอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกว่ามันต้องมีความลึกลับ มีความน่ากลัว ซึ่งบทนี้เป็นบทที่แคสต์ยากที่สุดคือความมหัศจรรย์มันเกิดขึ้นตอนที่เริ่มถ่ายซีนแรกของแกเลย จำได้ว่าเป็นซีนที่ทุกคนอยู่ในบ้านของเขาในป่าลึก แต่กลายเป็นว่าพอลองให้แกได้เล่นเป็นมาสเตอร์ซีนต่อจากนั้นเนี่ย แกเป็นคนเดียวที่เล่นเทคเดียวผ่าน โอเคบทภาษามลายูบางทีแกเล่นก็อาจจะมีหลุดบ้าง ซึ่งเรามาถ่ายอินเสิร์ชได้ แต่นั้นแหละคือเป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าความมหัศจรรย์มันเกิดขึ้น ก็เลยรู้สึกว่านี่แหละคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง และแกก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแกคือส่วนสำคัญของหนังเรื่องนี้”–ภาณุ อารี พูดถึงการแคสต์บท ไซหนับความท้าทายในบทไซหนับของ สีดา พัวพิมล ไม่ได้มีเพียงแค่การพูดภาษามลายูเท่านั้น แต่บทนี้ยังต้องมีการเล่นฉากแอ็กชันด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวเธอก็ขอทุ่มสุดตัวเล่นฉากแอ็กชัน โหนสลิงด้วยตัวเอง เพื่อให้หนังเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด
“บทนั้นเป็นบทที่แม่ต้องขึ้นสลิง แล้วคุณอุ๋ยกับน้องต้อยเนี่ยเขาก็เป็นห่วงเรา เห็นเราอายุเยอะแล้วเราก็บอกว่าไม่ต้องเลย ไม่เอา ไม่ใช้สแตนอิน เราขึ้นไปประมาณตึกข้างบนสูงๆ แล้วเชือกสลิงครึ่งหนึ่งของมันเล็กมากเลย เราตัดสินใจแล้วว่าเราจะเล่นเองไม่ใช้สแตนอิน แล้วตัวละครก็ต้องนั่งในรถเข็น รถเข็นก็หนัก แล้วเส้นสลิงก็ใหญ่กว่าด้ายนิดเดียว พอเราตัดสินใจไปแบบนั้นแล้วเราก็ต้องทำ พอเห็นแล้วเราแบบกลัวมาก แต่ไม่เป็นไร เราเป็นนักแสดงเราต้องทำได้ไม่ต้องใช้สแตนอิน ผู้กำกับเขาก็อะ เอาตามนั้น คือเราเล่นหนังเล่นละครมาไม่เคยขึ้นสลิงแบบนี้ อันนี้เป็นเรื่องแรกเลยค่ะ ฉากนั้นน่ะเป็นฉากที่หวาดเสียวมาก แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็จะยังตัดสินใจเล่นเองค่ะ เราคิดว่าการเล่นเองมันดีกว่าการใช้สแตนอิน”-สีดา พัวพิมล พูดถึงการเล่นฉากแอ็กชันในแดนสาป”
ฮีม (รับบทโดย บรอนต์ ปาลาเร่) บุคลลึกลับผู้หลงใหลในมนต์ดำเอง ก็เป็นตัวละครสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน โดย บรอนต์ ปาลาเร่ นับเป็นตัวเลือกที่ท้าทายของภาพยนตร์เรื่องแดนสาป เนื่องจากตัวละครจะต้องพูดได้ทั้งสองภาษา ซึ่ง ก้อง ฤทธิ์ดี คนเขียนบทเล็งตัว บรอนต์ ปาลาเร่ ไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มโปรเจกต์
ภาณุ อารี พูดถึงบรอนด์ว่า “คุณบรอนต์เนี่ย ตอนคุณก้องเขียนบทของฮีม ซึ่งเป็นตัวละครลึกลับในเรื่องแล้วก็เป็นตัวละครที่จะมาคลี่คลายสถานการณ์หลายๆ อย่างให้กับสองพ่อลูก ก็เป็นคุณบรอนต์ตั้งแต่ต้น มันเป็นความท้าทายด้วยแหละ ถ้าเราได้นักแสดงที่อาจจะไม่ใช่คนไทยและก็อาจจะไม่ได้เป็นคนที่คุ้นหน้าสำหรับคนไทยมากๆ สำคัญคือเขาพูดได้ทั้งภาษาไทยแล้วก็ภาษามลายู เพราะในหนังตัวละครตัวนี้จะต้องพูดได้ทั้งสองภาษา แล้วเราจะเลือกใครเพราะว่าถ้าเป็นนักแสดงไทยบางทีการจะใส่บทบาทตรงนี้ไปมันเป็นเรื่องยากเกินไป ดังนั้นบรอนต์ก็อยู่ในตัวเลือกของเราตั้งแต่แรก”