ภาพยนตร์อวกาศสัญชาติไทยเรื่องแรก “ยูเรนัส2324” สร้างสรรค์โดยเวลเคิร์ฟ สตูดิโอ ร่วมกับบริษัท จีเอ็ม เจเนอเรทส์ จำกัด และ บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) ท้ายทายทุกขีดจำกัดของ “เจมส์-ธนดล นวลสุทธิ์” ผู้กำกับฝีมือดีที่ฝากผลงานไว้ในใจผู้ชม ไม่ว่าจะเป็น “ละติจูดที่ 6” และ “Finding The Rainbow สุดท้าย…ที่ปลายรุ้ง” ที่ได้รางวัลจากงานประกาศรางวัล Asian Academy Creative Awards 2023 ฉายพร้อมกัน 4 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
“เจมส์-ธนดล” เผยว่า “จุดเริ่มต้นของ ‘ยูเรนัส2324’ คือโปรเจกต์ที่ผมและทีม เวลเคิร์ฟ สตูดิโอ คิดว่าเราพร้อมแล้วที่จะสร้างโปรเจกต์ที่จะก้าวข้ามข้อจำกัด กับศักยภาพคนไทย ที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่แปลกใหม่ กล้าที่จะออกสู่โลกกว้างมากยิ่งขึ้น กับการสร้างภาพยนตร์อวกาศของไทย สิ่งสำคัญคือเราต้องการสร้างภาพยนตร์ที่แทนความหมายต่าง ๆ ที่ผู้ชมจะได้รับจากภาพยนตร์ ในประเด็นด้านต่าง ๆ ของคนเราในสังคมปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะเรื่องราวของอาชีพที่ดูว่าจะห่างไกลคนไทยมาก ๆ อย่าง นักบินอวกาศ ที่เราได้นำตัวละครนี้มาเป็นแรงบันดาลใจ และหวังว่าวันหนึ่งเราจะมีนักบินอวกาศที่มีธงชาติไทย เดินทางไปทำภารกิจต่างๆ โดย ‘ยูเรนัส2324’จะนำเสนอให้เห็นว่า วันนั้นจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ วันที่เราจะมีนักบินอวกาศหญิงคนแรกที่จะไปโลดแล่นและสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อมนุษยชาติให้ตัวละคร เป็นเหมือนแรงบันดาลใจ ที่จะพาคนไทยอีกหลาย ๆ คน กล้าจะออกสู่ความคิดนอกกรอบ
“ยูเรนัส2324 เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ และเกิดขึ้นจริง ๆ กับผม กับเหตุการณ์ที่ทำให้ผมหวนย้อนคิดกับความรู้สึก ที่นำไปสู่ Key Message สำคัญของประโยคที่ว่า…ถ้าวันหนึ่ง คนที่เรารักต้องจากเราไป แล้วอีกคนที่ยังอยู่นั้นจะอยู่ที่แห่งไหน.. จากบทสนทนาของผมที่ได้รับจากคุณแม่ กับคำถามที่ได้พูดคุยหลังจากที่เราได้สูญเสียคุณพ่อ ว่า “แม่คิดว่าพ่อเสียไปแล้ว พ่อจะไปอยู่ที่ไหน” โดยได้รับคำตอบว่า “พ่อจะยังคงรออยู่ รอเราที่เดิมในที่ ๆ เขาชอบนั่งอยู่ ประโยคนี้จากคุณแม่ทำให้เราฉุดคิดว่าคนที่รักกัน จะมีทางไหนมั้ย ที่ทั้ง 2 คน จะได้เจอกันอีกครั้ง
“ผู้ชมจะได้เห็นเรื่องราวที่จะถูกถ่ายทอดออกมาหลากหลายมุมมองและทีมผู้สร้างที่พยายามทำให้ผู้ชมได้รับชมความสมจริงอย่างมากที่สุด ทั้งการหาข้อมูลเพื่อประกอบกับสร้างภาพยนตร์ที่อ้างอิงตามข้อมูลด้านอวกาศขององค์การนาซ่า การออกแบบการสร้างฉากยานอวกาศที่มีขนาดเทียบเท่าของจริงเพื่อใช้ในการถ่ายทำ และเทคนิคภาพพิเศษ (CG) ที่ได้นำมาใช้สำหรับฉากสำคัญ เราพยายามกันอย่างมาก สิ่งที่ทีมงานและนักแสดงพยายามให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ ให้สิ่งที่หลาย ๆ คนคิดว่าหนังไทยทำไม่ได้ เราก็อยากให้ลองมาดูว่าเราได้ทำแล้วนะ และหวังว่าทุกคนจะได้ความสนุก ความประทับใจในภาพยนตร์เรื่องนี้กลับไป”