กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชวนโรงเรียนและผู้ปกครอง จัดกิจกรรมฝึกทักษะการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันที่โรงเรียนทุกวัน พร้อมแนะพ่อแม่ ผู้ปกครองควบคุมให้ลูกแปรงฟันให้สะอาด ในกิจกรรม “Bright Smile Together: ยิ้มสวย ไปด้วยกัน” ป้องกันฟันผุ ลดปัญหาเด็กไทยสุขภาพช่องปากแย่
ทันตแพทย์ดำรง ธำรงเลาหะพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุขและผู้ช่วยอธิบดีกรมอนามัย เผยว่า ปัจจุบันสุขภาพช่องปากถูกบรรจุเป็นหนึ่งในวาระสุขภาพระดับโลก ตามมติที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งที่ 74 ณ นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2562 มีคนมากถึง 3.58 พันล้านคน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกที่มีปัญหาโรคในช่องปาก เช่น โรคฟันผุ โรคเหงือก สำหรับประเทศไทยปัญหาในช่องปากของเด็กมีหลายประการแต่ปัญหาที่เด่นชัดที่สุดคือโรคฟันผุ ซึ่งฟันผุพบได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือนและผุมากขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงอายุ 1-3 ขวบ จากข้อมูลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากครั้งล่าสุด ปี 2566 พบว่า เด็กอายุ 5 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลมีปัญหาฟันน้ำนมผุ ร้อยละ 72.1 โดยมีฟันผุเฉลี่ย 4.6 ซี่/คนนอกจากนั้นผลสำรวจครั้งล่าสุดพบเด็กที่ฟันผุมีภาวะโภชนาการผอมและค่อนข้างผอมมากกว่าเด็กที่ไม่มีฟันผุ
การป้องกันการเกิดโรคในช่องปากที่สำคัญที่ทุกคนสามารถทำได้ คือ การแปรงฟัน โดยในกลุ่มเด็กวัยเรียนสามารถดำเนินการผ่านกิจกรรมการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันที่โรงเรียนทุกวัน เพื่อช่วยฝึกทักษะที่ถูกต้องในการดูแลอนามัยช่องปากเรียนรู้ว่าการแปรงฟันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน เมื่อเด็กแปรงฟันเป็นประจำจะเคยชินกับการมีสภาพช่องปากสะอาด พัฒนาให้เป็นสุขนิสัยที่ดีต่อไปจนเป็นผู้ใหญ่ จึงแนะนำให้โรงเรียนจัดการฝึกทักษะการแปรงฟันที่ถูกต้อง ตามแนวทางกิจกรรม “Bright Smile Together: ยิ้มสวย ไปด้วยกัน” ซึ่งควรจะทำควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ผู้ปกครองกำกับเด็กให้แปรงฟันก่อนนอนทุกวันด้วย รวมทั้งควบคุมการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาล เนื่องจากการป้องกันปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบในเด็กจะใช้วิธีการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งมักไม่ได้ผล จะต้องทำควบคู่กันไปทั้งวิธีการทางชุมชนในโรงเรียน และการดูแลโดยครอบครัว