“SuanKaew Food Festi-Wat” ครั้งแรก วัดสวนแก้ว

“SuanKaew Food Festi-Wat” เทศกาลอาหารครั้งแรกของวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี โดยพระพยอม กัลยาโณ ผลักดันผลิตผลท้องถิ่นจาก Local สู่ World Class พร้อมสนับสนุน 50 ร้านอาหารที่อร่อย สด สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน SuanKaew Chef 5 Stars ราคาสบายกระเป๋า ตั้งแต่วันที่ 22-31 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.

อั้ม จารีลักษณ์ จันทร์สุวรรณ ผู้อำนวยการจัดงานสวนแก้วรวมพลังวัฒนธรรมอาหาร “SuanKaew Food Festiwat” กล่าวว่า “ศักยภาพของวัดสวนแก้วน่าจะต่อยอดได้หลายๆ ทาง สิ่งที่เรามองเห็นร่วมกันคือวัตถุดิบ ผลิตผลทางการเกษตรของวัดมีมากมาย เราอยากจะทำให้มีการแปรรูปที่สามารถขายได้ในตลาด Mass มากยิ่งขึ้น และก็จะทำอย่างไรให้วัดสวนแก้วจะเป็นจุดเช็คอินที่ทุกคนจะมาหาของอร่อยๆ ทาน ความต้องการอย่างแรกคือเราต้องการยกระดับผลผลิตจาก Local ให้มันเลอค่าและเข้าสู่ World Class เราก็เลยคิด Food Festival ขึ้นมา ตอนเริ่มแรกเรามี 5 เชฟแต่อีกหนึ่งท่านติดภารกิจที่ต่างประเทศ เชฟนุ่น จากเขียวไข่กา เชฟโต้ง เชฟโอ๊ค และ เชฟเป้ ผลผลิตทางเกษตรของวัดสวนแก้วจะเลอค่าได้อย่างไร เราก็เลยครีเอท Chef Table เราทราบดีว่าTarget Group ของวัดไม่สามารถที่จะ Support ได้ ก็จะมีประชาขนทั่วไปที่เข้ามาทำบุญที่วัดด้วย เราก็เลยมีงาน 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งคือ Chef Table บัตรมีจำหน่ายทุกวันเสาร์และอาทิตย์ แค่มื้อเที่ยงและมื้อเย็น เสริฟทั้งหมด 6 courses หรือ 6 จาน ตามสไตล์ของเชฟแต่ละคน เมนูไม่ซ้ำในแต่ละสัปดาห์ ในส่วนของเทศกาลอาหาร เรามี 50 ร้านค้าที่ผ่านเข้ามาขายในวัดสวนแก้ว พลวงพ่อไม่เก็บค่าออกบูธเพื่อต้องการให้ร้านเล็กๆ ที่ไม่มีกำลังในการออกงานเทศกาลใหญ่ๆ ได้มีโอกาส แต่หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกร้าน ต้องผ่านมาตรฐาน สวนแก้วเชฟ 5 ดาว โดยเชฟจะต้องยกป้ายผ่านทุกคน ในครั้งที่ 2 เราจะพบกันในเดือนมกราคม 2568”

ความพิเศษคือ Chef Table จาก 5 เชฟดัง คือ เชฟโต้ง The Chef Ambassador Thai Food UNESCO, เชฟโอ๊ค แชมป์รายการ “เซียนแกะสูตร” และ “The Dish เมนูทอง”, เชฟนุ่น รางวัลพระราชทานจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ หมวดอาหารซุป, เชฟเป้ Baan Khanitha Group ผู้เชี่ยวชาญอาหารไทยตำรับชาววัง และ เชฟอาร์ท อาหารไทยวังหลัง เฉพาะวันเสาร์ – วันอาทิตย์ เท่านั้น (23, 24, 30 และ 31 มีนาคม 2567) รอบ 11.00 น. ราคา 1,599 บาท และ รอบ 17.00 น. ราคา 1,999 บาท

MRBADBOYGO ได้รับเกียรติให้มาร่วมชิม Chef Table ของเชฟนุ่นกับเมนูเครื่องดื่ม อาหาร และของหวาน ที่ทำจากผลผลิตการเกษตรที่เป็น Signature จากวัดสวนแก้ว นั่นคือ มะม่วงยายกล่ำ ประกอบไปด้วย ยายกล่ำ Refreshment ยายกล่ำ รวมรัก รวมรส และ ยายกล่ำซ่อนหา

เชฟนุ่น เล่าให้ฟังว่า “แขกผู้มีเกียรติจะเห็นว่าภายใต้แก้วจะมีวุ้นๆ ซึ่งเชฟสกัดมาจากมะม่วงยายกล่ำที่สุกแล้วมาทำเป็นนวัตกรรมของระบบใหม่ทางวิทยาศาตร์และหลักการทำอาหาร ซึ่งเรียกว่า โมเลคิวลาร์ (Molecular) ทานเข้าไปแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมา Main Course จะเป็นแกงส้ม ซึ่งเชฟได้โจทย์ว่า ช่วยรังสรรค์มะม่วงยากกล่ำ ประจำจังหวัดนนทบุรี ออกมาเป็นอาหารอะไรได้บ้าง เชฟคิดว่ามะม่วงมีความเปรี้ยว เชฟเลยทำเป็นแกงส้ม โดยจะใช้เนื้อหมูสามชั้น เหมือนแกงส้มโบราณเป็นซุป และบนจานก็จะมี ข้าวสีชมพู โดยเชฟจะดึงสีชมพูมาจากฝาง สมุนไพรชนิดหนึ่งแก้โลหิตจาง บำรุงเลือด ช่วยระบบขับถ่าย ประโยชน์เยอะมาก มีปลาช่อนทอดเสริฟพร้อมน้ำยำมะม่วงยายกล่ำ ส่วนตัวไข่ที่ห่อเนื้อข้างในจะเป็นผัดสามรส มะม่วงยายกล่ำ มะเขือเทศและหัวหอมใหญ่ รวมถึงเนื้อกุ้ง ทองที่ติดบนไข่เป็นทองที่ตกแต่งอาหารทานได้ โปรตีนทั้งหมดที่อยู่ในจากนี้จะได้สารเนื้อปลา เนื้อกุ้ง และหมูสามชั้น มากกว่าความอร่อยก็คือความใส่ใจของเชฟ 100% เชฟได้เตรียมงานนี้ 3 วัน ของหวานเป็นไอศกรีมโบราณใส่มะม่วงยายกล่ำ”

นอกจากเที่ยวงานฯ แล้ว บริเวณรอบๆ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น สวนมะม่วงยายกล่ำ ของดีเมืองนนท์ และได้รับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เป็นสินค้า GI, ล่องเรือชมบรรยากาศสองฝั่งคลองอ้อมนนท์ อาทิ วัดราษฎร์ประคองธรรม วัดพิกุลเงิน วัดอัมพวัน หรือจะนั่งชิลล์ๆ จิบกาแฟ ชิมเบเกอรี่โฮมเมดริมคลอง

มะม่วงยายกล่ำ เป็นมะม่วงโบราณที่นิยมปลูกกันแพร่หลายในยุคสมัยก่อน ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมรับประทานกันเฉพาะผลสุกเท่านั้น เนื่องจากมีรสชาติหวาน เนื้อไม่เละแม้สุกงอม ไม่มีเสี้ยนอร่อยยิ่งนัก ผลดิบรสเปรี้ยวจัด นิยมสับเป็นฝอยๆ คั้นเอาเฉพาะน้ำใช้แทนน้ำมะนาวได้ดีมาก หรือจะสับปรุงเป็นส้มตำ แต่งรส ตามใจชอบมีกลิ่นเปรี้ยวของเนื้อมะม่วงโชยขึ้นจมูกชวนให้น้ำลายสอดียิ่งนัก

มะม่วงยายกล่ำ มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นมะม่วงทั่วไปเกือบทุกอย่างคือ อยู่ในวงศ์ ANACARDIACEAE เป็นไม้ยืนต้นสูง 10-20 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกว้าง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงกันเป็นคู่ๆ ใบเป็นรูปหอกขอบเรียบ ปลายแหลมโคนมน สีเขียวสด ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีนวล ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ “ผล” รูปกลมรีคล้ายผลของมะม่วงเศรษฐีทวาย แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าอย่างชัดเจน รูปทรงของผลจะออกแบนๆ เมล็ดลีบทำให้มีเนื้อเยอะ ผลดิบสีเขียว รสเปรี้ยวจัดและมีกลิ่นความเปรี้ยวแรงมาก ผลสุกสีเหลือง รสชาติหวานรับประทานอร่อยมากตามที่กล่าวข้างต้น มีดอกและติดผลดกตามฤดูกาลปีละครั้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง และเสียบยอด

ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=61555802738082&mibextid=ZbWKwL

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *