หลังจาก “นที” (ก้าวหน้า-กิตติภัทร แก้วเจริญ) และ “ภราดร” (ปอนด์-พลวิชญ์ เกตุประภากร) ตัดสินใจกลับบ้านต่างจังหวัด ภราดร ซึ่งมีพ่อป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โดยตลอดเวลาพ่อเห็น ภราดร เป็นตัวซวยมาตั้งแต่เกิด ภราดร มักถูกพ่อตี และทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ การกลับบ้านคราวนี้ ภราดร ได้มาทำหน้าที่ “ลูก” ครั้งสุดท้าย ส่วน “นที” ก็มาบอกความจริงกับพ่อแม่ เรื่องที่เขาเป็น “เกย์” แต่พ่อแม่ของ นที จะรับได้หรือเปล่าในละคร “รถรางเที่ยวสุดท้าย” วันที่ 2 มีนาคม2567 เวลา 20.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 และชมอีกครั้งได้ที่ www.VIPA.me
ก้าวหน้า เผยว่า “ฉากนี้มันเหมือนเป็นการยกภูเขาออกจากอก แต่ว่าเขาไม่ยอมรับ มันก็เลยเหมือนกดดันลงมาอีก การแสดงมันเลยซับซ้อนนิดนึงครับ เราจะปล่อยหมดก็ไม่ได้จะเก็บไว้มากน้อยขนาดไหน หรือว่าจะดีใจเสียใจดี มันมีความสับสนไปหมด เป็นซีนที่ทำการบ้านยากนิดนึง ก่อนที่จะเล่นทุกครั้งแน่นอนว่าเราต้องท่องบท แต่ละบทที่เราพูดเรารู้สึกอย่างไร คิดอะไรมันจะมี subtext อยู่ข้างในนั้น พอไปถึงหน้าเซ็ต เราจะปล่อยให้บรรยากาศพาไป ข้าวทุกจานที่เรากินมันคืออะไร ทุกอย่างมันสามารถกระทบจิตใจเราได้หมด มันเลยทำให้เราเล่นออกมาได้อย่างรู้สึก ซึ่งฉากนี้ก็เล่นกันอยู่หลายเทคเลยครับ คืออาจจะด้วยเทคนิคด้วย และมีนักแสดงหลายคนด้วย กล้องต้องรับหลายมุมด้วย เราก็ต้อง keep inner ให้ได้ ซึ่งถ้าอย่างไหนที่มันน้อยไปพี่ฝุ่นก็จะขอให้ปล่อยมากกว่านั้น ยอมรับว่าเป็นฉากที่พอผ่าน ก็ดีใจมากเลยครับ”
ปอนด์ พูดว่า “ผมรู้สึกว่าซีนกับ พ่อ มันสำคัญหมด ตั้งแต่ไปเจอพ่อ ดูแลพ่อ แล้วสุดท้ายดูแลแล้วพ่อก็เสียชีวิต เพราะว่าตอนไปเจอตัวภราดร พูดชัดเจนเลยว่า เขามาด้วยความเห็นใจ แต่เขาก็ยังมีความสงสัยในสิ่งที่เขาทำอยู่ หรือมีความมั่นใจอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์กับการกลับมาหาพ่อในครั้งนี้ซึ่งโมเมนต์ที่กลับมาครั้งแรกเราตั้งใจให้อภัยเขา แต่ความสัมพันธ์มันไม่ได้ขนาดนั้น แล้วในระหว่างทางที่ได้ดูแลพ่อความสัมพันธ์เริ่มลึกซึ้ง เราได้แตะตัวสัมผัสเขา ดูแลเทคแคร์เขาจริงๆ ได้อยู่กับเขาใช้ความเป็นพ่อลูกในชีวิตของภราดรจริงๆ แล้วพอถึงจุดที่ว่าพ่อเสียชีวิต มันเป็นโมเมนต์ที่อธิบายยากมากนะ คือมันกำลังเริ่มมีความหวังในการปรับความเข้าใจกับพ่อ อีกนิดนึงก็น่าจะรู้ว่าพ่อก็ต้องให้อภัย แต่ ณ จังหวะสุดท้ายก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตเขาก็ยังด่าเราว่าเป็นตัวซวยเหมือนเดิม ซึ่งความรู้สึกนี้สำหรับตัวผมนะมองว่าเป็นความน่าเสียดายในความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ครับ ยอมรับว่าตอนที่แสดงมันตีความถ่ายทอดอารมณ์ออกมายากมาก อยากให้ทุกคนได้ดูฉากนี้เพราะผมจัดเต็มจริงๆ”
ติดตามได้ที่ Facebook, YouTube, X (Twitter), LINE, TikTok, Instagram: Thai PBS, www.thaipbs.or.th, Application: Thai PBS