“บุหงา” (ต๊งเหน่ง-รัดเกล้า อามระดิษ) ตัดสินใจออกจากชีวิตของ “อารักษ์” (หนิง-นิรุตติ์ ศิริจรรยา) เพราะทนรับอารมณ์ของเขาไม่ได้ หลังจากร้าน รถราง มีการเปลี่ยนแปลงโดยการเพิ่มเมนูอาหารจานเดี่ยวลงไป ทำให้ อารักษ์ โกรธมาก และขู่ว่าจะปิดร้านในละคร “รถรางเที่ยวสุดท้าย” วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 20.30 น. และทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 และชมอีกครั้งได้ที่ www.VIPA.me
หลังจาก “บุหงา” และ “ซอแก้ว” (ตังตัง-นัฐรุจี วิศวนารถ ) ออกจากบ้านไป “อารักษ์” รู้สึกเหมือนสูญเสียบางอย่างในชีวิต รวมทั้งเพื่อนรักอย่าง “บริพัตร” (หมู-สมภพ เบญจาทิกุล) ก็มาล้มป่วยด้วยเส้นเลือดในสมองตีบ ทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไป “อารักษ์” จึงตัดสินใจไปตาม “บุหงา” ที่จังหวัดจันทบุรี จากคำบอกเล่าของ “นที” (ก้าวหน้า-กิตติภัทร)“อารักษ์” ทำเซอร์ไพรส์ “บุหงา” ด้วยการมอบแหวน และขอ “บุหงา” แต่งงาน ช็อตนี้ทำเอาบุหงา ถึงกับน้ำตาซึม และตอบรับการแต่งงานในครั้งนี้ด้วยหัวใจพองโต
ฉากหวานๆ นี้ ผู้กำกับฯและทีมงาน ใช้สวนลุงโม่ง สวนผลไม้เชิงอนุรักษ์ ย่านบางกรวย เมืองนนทบุรี เป็นสถานที่ถ่ายทำ แต่เซ็ตเป็นบ้านที่จังหวัดจันทบุรีของ บุหงา ก่อนเดินกล้องถ่ายทำผู้กำกับฯ ก็ให้นักแสดงอาหนิง และต๊งเหน่งซักซ้อม พร้อมดูมุมกล้องของสองนักแสดงกันก่อน จากนั้นเริ่มการถ่ายทำโดยเป็นคัตที่ อารักษ์ เดินคุยกับ บุหงา ถึงเรื่องราวในอดีต แล้วบุหงาก็สะดุดในคำพูดของ อารักษ์ ที่เรียกชื่อเธอแทนใช้สรรพนามอื่น จากนั้น อารักษ์ ก็ทำเซอร์ไพรส์ต่อด้วยการหยิบกล่องแหวนออกมาแล้วเอ่ยปาก”แต่งงานกับพี่นะ” บุหงา ถึงจะช็อคแต่ก็ยังถามว่า “พี่แน่ใจนะ” อารักษ์ ย้ำว่าจะจดทะเบียน และจัดงานแต่งงานด้วย ได้ยินแบบนี้ บุหงา ตอบรับทันทีพร้อมโผเข้ากอด อารักษ์ ทั้งน้ำตา แม้ว่าในฉากนี้ ต๊งเหน่งดูจะตื่นเต้นกว่าใคร เพราะตัวละคร “บุหงา” รอซีนนี้มานาน แต่เมื่อถึงเวลาแสดงเธอก็ถ่ายทอดฉากนี้ออกมาได้ดี เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครสุดๆ ซึ่งการถ่ายทำฉากนี้ใช้เวลาไม่นาน แม้จะมีการถ่ายเจาะมุมภาพใกล้ เพื่อให้ฉากนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นแต่ทุกอย่างก็ผ่านฉลุยไม่มีเทคเลย
รัดเกล้า เล่าว่า “นี่เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกกับ อาหนิง ก่อนวันถ่ายก็มีความตื่นเต้นอยู่แล้ว พอได้เจอวันฟิตติ้ง อาหนิง ก็บอกว่า นี่เหรอเมียฉัน ก็เลยบอกว่า อาเป็นคนดีไงคะ ก็เลยอยากจะช่วยคน เลยได้มาเป็นหนูนี่แหละค่ะ ใครจะคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้โอกาสเป็นภรรยาของ อาหนิง เพราะเราก็เป็นแฟนละคร อาหนิง มาตั้งแต่เราอายุน้อย ตั้งแต่ที่อาเล่น เรื่อง ผู้กองยอดรัก สำหรับเรา อาหนิงเหมือนแบรด พิตต์เมืองไทย คือหล่อมาก สมาร์ท โก้เก๋ทุกอย่าง แล้วหน้าอย่างเราใครจะคิดว่าวันนึงเราจะได้แสดงเป็นภรรยาของอาหนิง นิรุตติ์ ตอนแรกที่รับปากแสดงละครเรื่องนี้ เอาจริงๆ ไม่รู้ว่าต้องเป็นภรรยาของอาหนิง แต่ชอบที่ตรงบท และเส้นเรื่องของเรื่องนี้พูดถึงความต่างระหว่างวัย เรื่องความแตกต่างของคนที่อยู่ร่วมกันในสังคม แล้วมันก็เกิดมีความขัดแย้ง เกิดมีปัญหาขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าการนำเสนอมุมนี้มันน่าสนใจมาก เพราะมันไม่ใช่ว่าคนต่างวัย คนต่างทัศนคติจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขไม่ได้ แต่อยู่ที่ว่าคุณตั้งใจและเปิดใจที่จะพูดกันมากน้อยแค่ไหน”
ติดตามได้ที่ Facebook, YouTube, X (Twitter), LINE, TikTok, Instagram: Thai PBS, www.thaipbs.or.th, Application: Thai PBS