ละคร “รถรางเที่ยวสุดท้าย” (Once upon a Time) จากบทประพันธ์/บทโทรทัศน์โดย สมเกียรติ์ วิทุรานิชที่ผลิตโดย ไทยพีบีเอส และ บริษัท สตาร์ฟีนิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ละครฉายไปแค่สองตอนก็ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยเนื้อหาของละคร และคาแรกเตอร์ของนักแสดงที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา และการแสดงฝีมือชั้นครูของนักแสดงรุ่นลายครามอย่าง นิรุตติ์ ศิริจรรยา ในบท “อารักษ์” เจ้าของร้านอาหาร “รถราง” ที่รักการทำอาหาร เป็นคนยึดติดอยู่กับอดีตและไม่กล้าที่จะปล่อยวางจากคนอื่น สมภพ เบญจาทิกุล ในบท “บริพัตร” หนุ่มใหญ่ใจดี เพื่อนสนิท อารักษ์ สุขุมนุ่มลึก พูดน้อย คิดก่อนพูดเสมอ เข้ากับผู้คนได้ทุกวัย รัดเกล้า อามระดิษ ในบท “บุหงา” แม่ครัวในร้าน รถราง และเป็นภรรยาคนปัจจุบันของอารักษ์ ร่วมด้วยนักแสดง Gen Yอย่าง ก้าวหน้า-กิตติภัทร แก้วเจริญในบท “นที”, ปอนด์-พลวิชญ์ เกตุประภากร ในบท “ภราดร” และ ตังตัง-นัฐรุจี วิศวนารถ ในบท “ซอแก้ว” ลูกสาวของ บุหงา พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร “รถราง” และมีความฝันอยากเป็น “นักร้อง” เหมือนแม่ วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 20.30 น.ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 และอีกครั้งได้ที่ www.VIPA.me
นอกจากนี้ยังมีอีกสองตัวละครคือ “สินธร” รับบทโดย ภูริต พลอยมีค่า ลูกชายคนเดียวของ อารักษ์ จากภรรยาเก่าที่เสียชีวิต และ “ศิริรัตน์” รับบทโดย ภารดี วงษ์สวัสดิ์ ภรรยาของสินธร เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพิษภัย แต่ยังขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ ทำให้เป็นคนขี้โวยวาย
เรื่องราวในตอน 3กำลังดำเนินมาถึงตอนที่ อารักษ์ มีปากเสียงกับ บริพัตร ถึงเรื่องราวในอดีต ทำให้ อารักษ์ ถึงกับกินเหล้าเมามาย และเมื่อกลับบ้าน อารักษ์ ก็ได้เห็น บุหงา แต่งหน้าและสวมชุดนักร้องในอดีต ทำให้ อารักษ์ โกรธ และโวยวายเสียงดัง ซอแก้ว ที่ไม่พอใจ อารักษ์ ตั้งแต่ทีแรก และพยายามจะพาแม่ออกไปจากชีวิตของ อารักษ์ อยู่แล้ว จึงมีปากเสียงกันขึ้น ถึงขั้น อารักษ์ ตบหน้าและไล่ ซอแก้ว ออกจากบ้าน ถือได้ว่าเป็นฉากดรามาอีกหนึ่งฉากที่ 3 นักแสดงอย่าง หนิง-นิรุตต์, ต๊งเหน่ง-รัดเกล้า และ ตังตัง-นัฐรุจี ต้องฟาดอารมณ์กันแบบไม่ยั้ง!! จีรภา ระวังการณ์ ผู้กำกับฯ ใช้บ้านหลังหนึ่งแถวสุทธิสาร เป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งก่อนถ่ายทำก็มีการขอซักซ้อมบท ดูแอคติ้งจังหวะของนักแสดงทั้งสามก่อนถ่ายโดยนักแสดงแต่ละคนพูดบทลื่นไหลทำการบ้านมาอย่างดีด้าน ตังตัง ก่อนเดินกล้องถ่ายทำจริงก็ขอทำอารมณ์สักครู่กับฉากนี้ จากนั้นเมื่อถึงเวลาถ่ายทำจริงที่มีทั้งภาพกว้าง ภาพเจาะหน้านักแสดง ทั้ง อาหนิง กับ สาวตังตัง ก็สาดคำพูดกันไม่ยั้ง ส่วนรัดเกล้า ในฉากพยายามจะพูดและห้ามให้ทุกคนเบาลงแต่ก็ดูจะไม่สำเร็จ เพราะทั้ง อาหนิง กับ ตังตัง ก็ใส่อารมณ์ของตัวละครกันแบบสุดพลัง จนกระทั่งถึงจุดพีค คือ ช่วงที่อาหนิง ทนไม่ไหวยื่นมือออกไปตบหน้า ตังตัง งานนี้ถึงจะใช้มุมกล้องช่วย แต่ ตังตัง และ อาหนิงก็รับส่งอารมณ์กันได้เป็นอย่างดี จนภาพที่ออกมาสมจริงเอามาก ๆ
ซึ่งเมื่อเสียงคัทดังขึ้นทั้งอาหนิง และรัดเกล้า ก็เอ่ยปากชม สาวตังตัง ว่าแสดงได้ดี ด้าน ตังตังก็เผยความรู้สึกกับฉากนี้ว่า “เป็นฉากที่ค่อนข้างกดดันก็ว่าได้ จัดเป็นซีนอารมณ์ใหญ่ๆของซอแก้วเลย จริงๆแล้วตังกลัวจะโดนอาหนิง ตบจริง ซึ่งก่อนถ่ายทำเราก็ได้ซ้อมบทพูดกัน แต่ไม่มีการบอกว่าจะตบจริงหรืออย่างไร ยอมรับว่าตอนนั้นตื่นเต้นมากว่าอาหนิงจะตบจริงเปล่า แล้วเราจะทำอย่างไรดี แต่ตอนถ่ายทำก็ใช้มุมกล้องแทนไม่ได้ตบจริง ถึงกระนั้นหนูก็รู้สึกมือวูบผ่านหน้าแรงมาก เพราะอาหนิงท่าท่างมาเต็มมาก ทำเอาเสียววูบไปเหมือนกัน ยอมรับว่าทั้งอาหนิง และพี่ต๊งเหน่ง เป็นนักแสดงที่ professional มาก อารมณ์ทุกคนมาเต็ม เมื่อส่งมาให้เราก็ทำให้การแสดงลื่นไหลไปตามบทจนทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ตังยกให้เป็นอีกหนึ่งซีนที่มหัศจรรย์ค่ะ”
ติดตามได้ที่ Facebook, YouTube, X (Twitter), LINE, TikTok, Instagram: Thai PBS, www.thaipbs.or.th, Application: Thai PBS