“รักดอก” กับ “เขาวงกตแห่งความสุข”

“โจ้ ชยวัสส์ ปัญจภักดี” ผู้สร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับดอกไม้ในนาม “รักดอก” และ ศิลปินดอกไม้เบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย ได้ตีความของความสุขผ่านหลากหลายอารมณ์และการจัดดอกไม้ในรูปแบบต่างๆ ใน 6 ห้องภายในนิทรรศการศิลปะจัดดอกไม้ของเขา ที่มีชื่อว่า “เขาวงกตแห่งความสุข” (The Maze of Happiness) ของ “Srinakarian Artibition Series” ณ MMAD โซน MUNx2 ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ตั้งแต่วันนี้จนกระทั่ง 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 12.00 – 20.00 น. เข้าชมฟรี

6 ห้องเหล่านี้ ประกอบไปด้วย “Dream Park” สวนแห่งความฝัน ที่สามารถพักร่างกาย จิตใจ และมีความสุขได้ง่ายๆ แค่เพียงปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไปกับจินตนาการ, “Happiness Overflows” ก้อนมวลความสุขที่กระจายไปทั่วห้อง จนสามารถแบ่งปันความสุขนี้ให้กับผู้อื่น, “การสะท้อนตัวตน” เปรียบเหมือนอยู่กลาง 3 แยกกับกระจกที่สะท้อนช่วงเวลาแห่งความสุขที่ผ่านมา และเลือกเดินต่อไปยังความสุขแต่ละรูปแบบ, “Spreading Happiness” เก้าอี้สีแดงท่ามกลางภูเขาและดอกไม้ เปรียบเหมือนความสดใส, “Happiness in Wonderland” ความสุขในโลกจินตนาการที่ต้นไม้และดอกไม้มีสีสันสดใส แปลกตา  และ “Illusionary Wall” กําแพงลวงตาที่ประดับไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ก่อตัวขึ้นมาจากความสุขภายในใจ

“โจ้ ชยวัสส์” เล่าว่า “ซีคอนให้โจทย์มาว่าธีมครั้งนี้อยากให้เกี่ยวกับความสุข เราก็เลยไปคิดต่อยอดว่าความสุข ถ้าเราทำเป็นเขาวงกต คนก็จะสนุกด้วยมีหลงบ้าง รู้สึกว่าอยากให้คนหลงใหลกับงาน ล้อกับคำว่าหลง หลงใหลกับงานดอกไม้ของเรา คือจริงๆ แล้ว เขาวงกตคือการเดินทางอีกรูปแบบหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งต่อให้คนมันหลงก็จริง แต่คนจะรู้สึกสนุกกับการหลงในสถานที่แบบนั้น เราก็อยากให้คนที่มาสนุกกับการเดินชมงานด้วย เหมือนกับการเดินเข้าในเขาวงกตด้วย และก็อยากให้คนมีความหลงใหลกับงานดอกไม้ของเราด้วย และก็อีกอย่างหนึ่งคือ จริงๆ มันก็เป็นอะไรที่ง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนมาก เพราะฉะนั้นเราก็เลยพยายามเอาโจทย์ที่มันจับต้องได้ คนเห็นแล้วมันเข้าใจง่าย”

แบ่งความสุขออกเป็น 6 ห้องอย่างไร

จริงๆ แล้ว ด้วยพื้นที่มากกว่า ในการดีไซน์ เราดูพื้นที่ของเราทำได้มากน้อยแค่ไหน เราก็ดูสัดส่วนของห้องแล้วได้ 6 ห้อง ก็กำลังดี Content มันไม่ Overload คนที่จะมาเสพงาน เพราะฉะนั้นเราเอาให้มันพอดีๆ ไม่มากไป ไม่น้อยไป

ชอบห้องที่ 6 เพราะอะไร

จริงๆ มันแบ่งเป็นการเอาดอกไม้สดมาทิ้งไว้ให้มันแห้งและมันอยู่ได้นาน คือผมยังชอบงานที่มันมีความเป็น Sustainable อยู่ มีความยั่งยืนในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นเราก็อยากให้ใช้ประโยชน์กับดอกไม้ให้มันมากที่สุด พอหลังจากดอกไม้สดที่เราเอามาแล้วและใช้ได้นานเป็นเดือนจริงๆ จริงๆ มันอยู่ได้เป็นปี มันถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด เราก็อยากโปรโมทการใช้ทรัพยากรให้มันคุ้มค่า แล้วมันก็ทำให้ชิ้นงานออกมาดูน่ารักและมีเสน่ห์ด้วย

ดอกไม้แต่ละห้องมีความหมายแตกต่างกัน

จริงๆ ก็มีอยู่เหมือนกันนะ อย่างเช่น ห้องที่เป็นสีส้มสีเหลืองมันแสดงความรู้สึกที่ ตื่นเช้ามาและรู้สึกสดชื่น คนเราพอได้พักผ่อนเต็มที่ มันคือความรู้สึกที่มันสดชื่นของการเริ่มต้นวันใหม่ แต่วันใหม่ของเราหลังจากนั้นไปแล้ว มันอาจจะเต็มไปด้วยจินตนาการ สีสัน Colorful เหมือนห้องที่เป็นจินตนาการ ในขณะที่บางครั้งก็อาจจะดูสงบๆ เหมือนห้องที่เราทำเป็นกลุ่ม Tropical Flowers ในขณะตรงนี้ก็เป็นห้องที่บางครั้งมันเศร้าบ้าง เบื่อบ้าง เพราะมันเป็นของแห้ง ในอารมณ์ในแต่ละวันของเรามันอาจจะหลากหลายแปรปรวน เพราะฉะนั้นในแต่ละห้อง จริงๆ แล้วมันสื่ออารมณ์ของแต่ละองค์ของเราออกมา

แต่ละห้องสื่ออารมณ์มากกว่าความสุข

ไม่หรอก ผมว่าความสุขของคนเรา มันมาจากหลากหลายอารมณ์ เป็นตัวสรุปความสุขของเราอีกทีนึง คนเราจะเข้าใจความสุขได้ก็ต้องผ่านทุกข์บ้าง คือคนเรามีความสุขเดียวตลอดเวลา มันจะไม่เห็นคุณค่าของความสุขเลย มันก็เลยจะกลายเป็นความน่าเบื่อ ผมคิดว่าอารมณ์ของคนในแต่ละวันเป็นตัวที่หาบทสรุปความสุข ความสงบในชีวิตได้ จริงๆ มันหา Direction ของความสงบมากกว่า มันไม่เชิงสุขอย่างเดียว พอเราเข้าใจชีวิตแล้ว ผมว่ามันอยู่นิ่งๆ ได้ด้วยความสงบสุข คือความสุขเกิดจากความสงบมากกว่า เพราะฉะนั้นเราเจออะไรทุกอย่างวันๆ หนึ่ง หลากหลายอยู่แล้วละ แต่ถ้าเรามองอย่างเข้าใจ ผมว่าเราก็สามารถผ่านมันได้อย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน และก็ยังมีความสุขอยู่บนความทุกข์ได้

ห้องที่ตีความยาก

จริงๆ แล้ว เราค่อนข้างตีไว้มันชัดๆ อย่างที่บอก งานนี้เราไม่อยากให้มันดูย่อยยาก ไม่ถึงกับต้องปีนบันไดตีความ เราอยากให้เข้ามาและก็ความรู้สึกมันเด้งออกมาเลย ไม่ต้องซับซ้อนจนเกินไป

โทนสีแทนอารมณ์กับการจัดดอกไม้

จริงๆ การจัดดอกไม้ ผมว่ามันค่อนข้างยากคนละแบบในแต่ละห้อง คือ อันดับแรกเลยมันเป็นการเลียนแบบการทำงานที่มันสอดคล้องกับธรรมชาติที่ไม่ Pattern เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว Compose ของดอกไม้แต่ละห้องมันมีความยากง่ายในรูปแบบไม่เหมือนกัน อย่างห้องนี้ การผสมสี การวาง shape อันนี้แก้แล้วแก้อีกหลายรอบ กว่าจะได้ shape ที่เราอยากได้ หรือ Form ต้นไม้ก็ต้องดูว่า ทำอย่างไร Form ต้นไม้จะออกมาแนวแฟนซี แต่ก็ยังดูลงตัว ไมใช่ดูเลอะเทอะ หรือการต่อกิ่งไม้ตรงห้องสีส้มสีเหลือง เราต่ออย่างไรให้กิ่งมันออกมาแล้วมันดูไม่ขัดกับความรู้สึกแปลกๆ เพราะฉะนั้นแต่ละห้องจะมีโจทย์ยากง่ายของมัน แต่ว่าคนละรูปแบบแค่นั้นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *