หลังจากทำให้ “ช่อ พรรณิการ์” ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต “ศรีสุวรรณ จรรยา” ไม่เชื่อ ทักษิณ ชินวัตรป่วยจริงแถมได้รับการผ่าตัด พร้อมขอเดินหน้าร้องเรียนต่อแพทย์สภาให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวมีเรื่องจริงเท็จประการใด เพราะก่อนหน้าทักษิณกลับไทย เจ้าตัวและลูกสาวยังเคยมาบอกประชาชนว่าผลตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์แข็งแรงหายห่วง จนดูมีพิรุธ แถมหมอเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เหมือนรู้เห็นเป็นใจ ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 16.00 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27
คุณช่อถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต คงจะดีใจมากใช่ไหม?
ไม่ ไม่เคยดีใจเลยกรณีเรื่องนี้ บอกตามตรงไม่เคยดีใจนะครับ การตัดสิทธิ์ของบุคคลใดตลอดชีวิตเนี่ย กระผมว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเลย แต่ว่ามันควรจะมีมาตรการลงโทษ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งก็พอ อาจจะแค่ 5 ปี 10 ปี หรือสูงสุดไม่เกิน 20 ปี ก็พอ สิทธิทางการเมืองมันควรจะเป็นสิทธิโดยชอบที่ติดตัวมากับตัวคนเรา หรือมนุษย์เรา เข้าใจไหม กรณีคุณช่อ แน่นอนผมเป็นคนร้อง แต่ว่าผมก็ไม่ได้ดีอกดีใจ พอมีคำพิพากษาของศาลออกมาแบบนี้แล้ว เราจะมาตีอกชกตัวดีใจตามไปด้วยนะครับ เพียงแต่ผมเป็นจุดเริ่มต้น นำความไปร้องเรียน ป.ป.ช. เพื่อให้ทำตามหน้าที่ในการไต่สวนตามอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมายเท่านั้นเองครับ
พี่ศรีสุวรรณว่า ช่อโดนมากไปใช่ไหม?
ใช่ ผมว่ามันมากเกินไป จริงตัดสิทธิ์สัก 10 ปี 20 ปี เขาโดนมา 10 ปีจากอดีตเป็นผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว ก็หมดไปครึ่งทางแล้ว ก็เหลืออีกครึ่งทาง พอมาครั้งนี้ก็ไม่ต้องมานั่งนับตัวเลขอีกแล้ว จริงๆอาจจะแค่สัก 10 ปี จากปัจจุบัน ก็อาจจะเหลือแค่ 15 ปี ผมว่าก็ยังดีนะ ตอนนี้คุณช่อน่าจะประมาณ 40 ปี ก็อายุประมาณ 55-60 ปี ก็ยังเล่นการเมือง ยังเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้
ล่าสุดยังไปร้องเรียนแพทยสภา เรื่องคุณทักษิณ?
คุณทักษิณมามอบตัว และก็ลงมาจากเครื่องบินส่วนตัวที่สนามบินดอนเมือง แล้วไปมอบตัวที่ศาลฎีกา และกลับเข้ามาที่ทัณฑสถานเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเข้าไปอยู่เพียง 11-12 ชั่วโมง แล้วขอตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ผมดูข้อมูล เช็กข่าวสาร ประชาชนร้องเช็กดูครับว่าถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่า ทำไมไม่ยอมที่จะเข้าไปรับโทษ ตามคำพิพากษาของศาลทั้ง 3 คดี และที่สำคัญคุณทักษิณเอง หรือลูกๆก่อนหน้านี้ก็เคยโพสต์ว่าตัวเองแข็งแรงดี ออกกำลังกายมาโดยตลอด แม้กระทั่งล่าสุดไปเช็กสุขภาพที่สิงคโปร์ คุณอุ๊งอิ๊งก็ออกมายืนยันว่า สุขภาพร่างกายของคุณพ่อแข็งแรงสมบูรณ์ดี ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง แต่พอก้าวเท้าเข้าไปสู่ทัณฑสถานเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เท่านั้นแหละป่วยขึ้นมาเลย มันทำให้สังคมคลางแคลงใจครับ แล้วคนที่เด็ดขาดว่า คุณทักษิณป่วยจริงหรือไม่คือ แพทย์ เท่านั้น ตามกฎหมาย
พอแพทย์วินิจฉัยแล้วส่งไปแบบนี้ สังคมก็ตั้งข้อสงสัยไง และแน่นอนผมเป็นหนึ่งในนั้น หมอใช้วินิจฉัยอย่างไรในการวินิจฉัยว่าป่วย 4 โรค แล้วส่งไปเลยเหรอ ในขณะที่ พรบ.ทัณฑสถาน ปี 2560 เขียนไว้ชัดเจนว่า การที่จะส่งนักโทษ ไปรักษานอกโรงพยาบาลทัณฑสถานได้ จะต้องมีอยู่ 2 เคส 2 โรคสำคัญเท่านั้น 1.โรคติดต่อ 2.โรคที่กับเกี่ยวจิต เท่านั้นเอง ประเด็นปัญหา เมื่อมันไม่อยู่ในข้อกฎหมายแล้วหมอวินิจฉัยอย่างนั้นเนี่ย ผู้อำนวยการราชทัณฑ์ก็ออกมายืนยันว่า โรงพยาบาลทัณฑ์ไม่มีเครื่องหมาย เครื่องมือดีพอต่างๆ เราก็สงสัยโรงพยาบาลทัณฑ์ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่เป็นนักโทษประมาณ 2-3 แสนคน ไม่มีเครื่องมือดูแลคนเหล่านี้เลยหรือ มันเป็นข้อพิรุธ ข้อสังเกต ผมก็ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบเหล่านี้ครับ พอครบ 30 วัน นักโทษชายคนนี้ก็ออกมาบอกว่าต้องผ่าตัด และในขณะข้อตามกฎหมายทุก 30 วัน ต้องมีการออกมาบอกเพื่อทำรายงานขออนุญาตขยายเวลาฯลฯ
สรุปพี่ศรีไม่เชื่อว่าเขาป่วยจริง?
ผมไม่เชื่อครับ อมพระมาพูดผมก็ไม่เชื่อ
แต่ถ้าเขาป่วยจริง พี่ศรีสุวรรณโดนฟ้องกลับนะ?
ไม่หรอกครับ บุคคลที่ผมร้องเรียน เป็นบุคคลสาธารณะ เมื่อบุคคลสาธารณะย่อมสามารถได้รับการตรวจสอบได้ครับ กฎหมายรัฐธรรมนูญให้การรับรองและคุ้มครองการตรวจสอบเป็นเรื่องธรรมดาครับฯลฯ