“โรงภาพยนตร์ House สามย่าน” ร่วมกับ “สถาบันภาพยนตร์เอเชีย (Asian Film Awards Academy)” จัด “เทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกงประจำปี 2023” ส่วนหนึ่งของ Hong Kong Week 2023 @Bangkok โดยคัด “หนังดัง หนังทำเงิน หนังที่คว้ารางวัล” จากผู้กำกับเลือดใหม่และหนังคลาสสิกหาดูยากถึง 7 เรื่อง 7 รส ระหว่างวันที่ 22-27 ตุลาคม 2566
ภาพยนตร์ 7 เรื่อง ได้แก่ “A Guilty Conscience”, “A Light Never Goes Out”, “Mad Fate”, “Over My Dead Body”, “Hong Kong Family”, “Elegies” และ “Nomad” นอกจากนั้นยังได้ผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรง เจ้าของผลงานที่เข้าชิงรางวัลระดับโลก “แจ็ค อึ่ง” และนักแสดงนำ“เรนซี เหยิง” จาก “A Guilty Conscience” รวมถึง “อนาสเตเชีย จาง” ผู้กำกับจากภาพยนตร์เรื่อง “A Light Never Goes Out” ที่บินลัดฟ้าเพื่อร่วมงานเปิดเทศกาลในครั้งนี้
อีกหนึ่งไฮไลท์คือการเข้าร่วมชมนิทรรศการที่บอกเล่าตัวตนและผลงานของคนทำหนังเลือดใหม่ ของฮ่องกง ภายใต้ชื่องาน Next Generation: Emerging Directors Exhibition ชมฟรี เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม ถึง 11 พฤศจิกายน 2566 (ปิดนิทรรศการ 1 วันในวันที่ 30 ตุลาคม) บริเวณโถงกลางของโรงภาพยนตร์ House ทุกวัน
ภาพยนตร์ทุกเรื่องจะฉายเพียงรอบเดียวเท่านั้น โดยมีคำบรรยายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ราคาตั๋ว 160 บาททุกที่นั่ง เปิดจองตั๋วตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ทางแอปพลิเคชัน House Cinema และทางเว็บไซต์ housesamyan.com หรือที่หน้าเคาน์เตอร์โรง ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ และติดตามผ่านแฮชแท็ก #HKFilmGalaTH
“A Guilty Conscience”
ภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องแรกที่ทำเงินในบ้านเกิดทะลุ 100 ล้านเหรียญฯ ผลงานกำกับของ แจ็ค อึ่ง เล่าเรื่องของทนายความนอกคอกที่ต้องมาไขคดีฆาตกรรมของแม่คนหนึ่งที่โดนจับข้อหาฆ่าลูกสาวตัวเอง ครบรสทั้งตลก ลุ้นระลึกและสืบสวน นำแสดงโดย หว่องจี๋หว่า, ลูอีส หว่อง และไมเคิลหว่อง
“A Light Never Goes Out”
หนังที่ทำให้ จางอ้ายเจีย คว้ารางวัลม้าทองคำนำหญิงปีล่าสุด ผลงานของผู้กำกับหญิงหน้าใหม่ อนาสเตเชีย จาง เล่าเรื่องราวหวานปนเศร้าของหญิงวัยกลางคนที่พยายามสานฝันของสามีผู้ล่วงลับซึ่งเป็นช่างทำป้ายไฟนีออน หนังทำหน้าที่คล้ายบทบันทึกแสนงดงามถึงวัฒนธรรมการทำป้ายนีออน อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของร้านค้าในฮ่องและปัจจุบันกำลังสูญหายไปตามกาลเวลา
“Mad Fate”
ผลงานของ เส่ยเจิง (Accident, The Monkey King, Limbo) ผู้กำกับที่ฮอตที่สุดในฮ่องกงเวลานี้ และได้ ตู้ฉีฟง มาเป็นโปรดิวเซอร์ ว่าด้วยปาฏิหาริย์และการเล่นตลกของพลังเหนือธรรมชาติ ที่นำพาชาย 2 คนให้มาเจอกัน คนแรกเป็นหมอดูสติแตก อีกคนเป็นหนุ่มวัยรุ่นที่ชะตากำหนดให้เขาเป็น “ฆาตกรโรคจิต” บอกได้สั้นๆ คือ เดาไม่ถูกเลยแม้แต่ฉากเดียวว่าหนังจะเดินไปทางไหน
“Over My Dead Body”
หนังตลกเสียดสี ผลงานของผู้กำกับดาวรุ่ง ห่อเชิกทิน จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจู่ๆ มีศพนิรนามมานอนเปลือยกายอยู่อะพาร์ตเมนต์สุดหรูของคุณ และคุณก็ไม่อยากเกี่ยวข้องกับคดีความใดๆ นั่นจึงเป็นที่มาของปฏิบัติการย้ายศพ…สุดหฤหรรษ์ หนังได้รับเลือกไปฉายในหลายเทศกาลทั่วโลก เป็นหนังตลกที่มีจุดพลิกผันชวนลุ้นตลอดเวลา
“Hong Kong Family”
หนังดราม่าที่เล่าชีวิตของครอบครัวธรรมดาๆ ครอบครัวหนึ่งในฮ่องกง ที่ต่างต้องดิ้นรนและพยายามมีความสุขกับสิ่งที่พบเจอในแต่ละวัน หนังได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ว่าถ่ายทอดแง่มุมที่แตกต่างได้อย่างสมจริงมีรสนิยม และทีมนักแสดงก็ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม ผู้กำกับ เอริก จาง ทำหนังยาวเรื่องแรก เขากล่าวว่าตนเองได้รับอิทธิพลมาจากเอ็ดเวิร์ด หยางและแอนน์ฮุย
“Elegies”
แอนน์ฮุย (Boat People, A Simple Life) ผู้กำกับหญิงรุ่นใหญ่ของวงการหนังฮ่องกง ทำหนังสารคดีที่เรียบง่ายแต่งดงามอย่างยิ่ง เธอพูดถึงบทกวีและนักเขียนกวีที่เธอชื่นชอบ อิทธิพลของเมืองฮ่องกงที่มีต่องานศิลปะ และกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป นี่เป็นโปรเจคต์ที่แอนน์ฮุยตั้งใจจะทำมาหลายสิบปีแล้ว และเพิ่งมีโอกาสทำได้สำเร็จตอนที่อายุเธอล่วงเลยเข้าเลขเจ็ด
“Nomad”
หนังคลาสสิกจากปี 1982 ผลงานกำกับของ แพทริค แทม และนำแสดงโดย เลสลี จาง เล่าถึงชีวิตที่ล่องลอยไร้ที่ยึดเหนี่ยวของหนุ่มสาวฮ่องกง 4 คนที่พากันไปเที่ยวทะเล แพทริค แทมเป็นผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ในยุค 80 เขาเป็นที่รู้จักในฐานะคนตัดต่อหนังเรื่อง Days of Being Wild และ Ashes of Time ให้หว่องกาไว สำหรับ Nomad นั้น นับได้ว่าเป็นงานชิ้นเอกของเขา หนังเข้าชิงฮ่องกงฟิล์มอวอร์ดส์ในปีนั้นถึง 9 รางวัล ฉบับที่จะฉายในเทศกาลเป็นเวอร์ชันDirector’s Cut ภาพคมชัดระดับ 4K
