“ฮิโรชิ ทามูระ” (Hiroshi Tamura) ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า “บิดาแห่งนิสสัน จีที-อาร์” ได้มาเยือนไทยและพบปะสมาชิก GTR35 Club ณ โชว์รูม สยาม นิสสัน กรุงไทย ผู้ได้รับสิทธิ์จำหน่ายซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นนี้อย่างเป็นทางการ
“รพิธร สรศาสตร์ปรีชา” ประธานสโมสร GTR35 Thailand กล่าวว่า “พอทราบว่าคุณทามูระจะมาไทย ทุกคนตื่นเต้นมาก เพราะสำหรับเจ้าของนิสสัน จีที-อาร์ R35 ทุกคนอยากจะได้พบกับคุณทามูระมาก เพราะถือว่าเป็นบิดาแห่งจีที-อาร์เลย สมาชิกของ GTR35 Club ส่วนมากรักซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นนี้ เพราะนอกจากสมรรถนะจะยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีดีไซน์ที่หรูหราทันสมัย และยังเป็นรถที่สามารถขับขี่ในชีวิตประจำวันด้วย สำหรับผม จีที-อาร์ เป็นรถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์ที่เราใช้ทุกวันได้ ไม่เหมือนซูเปอร์คาร์ส่วนใหญ่ที่มีช่องเก็บของท้ายรถที่เล็กมาก แต่นิสสัน จีที-อาร์มีที่เก็บของเยอะ เวลาขับก็สมรรถนะดี ทั้งแรงม้าและแรงบิด น่าประทับใจมาก”
GT-R R35 เป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นล่าสุดในตระกูล GT-R ตำนานในวงการมอเตอร์สปอร์ต และ R35 ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่เก่งทั้งในสนามแข่งและการขับขี่ประจำวันได้ด้วย
ทามูระ Brand Ambassador ของ Nissan เล่าว่า “GT-R เริ่มต้นขึ้นในปีพ.ศ. 2512 GT มาจาก Gran Turismo หรือ Grand Tour และ R หมายถึง racing หรือการแข่งขัน GT-R ถูกออกแบบมาสำหรับการแข่งขันและคนที่หลงใหลในสมรรถนะและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ เดิมนั้นเรียกชื่อซูเปอร์สปอร์ตคาร์นี้ว่า นิสสัน สกายไลน์ จีที-อาร์ (Nissan Skyline GT-R) โดยขณะนั้นได้พัฒนารุ่น R32 ในปีพ.ศ. 2532 และลงแข่งในรายการสุดยอดมอเตอร์สปอร์ตของญี่ปุ่น คือ Japanese Touring Car Championship แล้วคว้าแชมป์มาครองอย่างสวยงาม ต่อเนื่องถึง 5 ปีซ้อน”
หลังจากนั้น R32 ได้โชว์ศักดาในการแข่งขันนอกประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในปี 2533 ใน Australian Touring Car Championship ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะสามารถเขี่ยแชมป์เก่าตกไปแบบไม่เห็นฝุ่นท่ามกลางความเซอร์ไพรซ์ของแฟนพันธุ์แท้มอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก และยังคงครองบัลลังก์ถึง 3 ปีซ้อน จนกระทั่ง “Wheels” นิตยสารชื่อดังของออสเตรเลียถึงกับขนานนามว่า “ก๊อดซิลล่า”
“การพัฒนารถรุ่นนี้ถือว่าไม่ธรรมดา ทีมวิศวกรของเราทุ่มเทกันเต็มที่เพื่อสร้างรถยนต์ทรงพลังที่ให้แรงสูงถึง 600 แรงม้า เราต้องปรับจูนหลายอย่างเพื่อให้รถมีการทรงตัวดี เกาะถนนเป็นเยี่ยมและจากการทุ่มเทอย่างมาก ผลลัพธ์ก็คือ นิสสัน จีที-อาร์นี่เอง” ทามูระกล่าว
แฟนมอเตอร์สปอร์ตเริ่มเรียกชื่อให้สั้นลงจากสกายไลน์ จีที-อาร์ ก็เหลือเพียง จีที-อาร์ โดยนิสสันได้ตัดสินใจที่จะแยกชื่อรุ่นจากเดิมออกเป็นสองแบรนด์คือ สกายไลน์ กับ จีที-อาร์ และพัฒนาทั้งสองแบรนด์แยกจากกัน โดยสกายไลน์จะเป็นรถยนต์ซีดาน ขณะที่นิสสันได้เปิดตัวรถต้นแบบ นิสสัน จีที-อาร์ คอนเซปต์ (Nissan GT-R Concept) เป็นครั้งแรก ในปี 2001 และเผยโฉม จีที-อาร์ ภายใต้รหัส อาร์ 35 (GT-R R35) ในปี 2007 ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและได้รับความนิยมอย่างสูงสุดจนถึงปัจจุบันนี้
นิสสันได้แนะนำโฉมล่าสุดในตระกูล R35 นี้ คือ นิสสัน จีที-อาร์ รุ่นปี 2024 รูปลักษณ์ปราดเปรียว ทันสมัยมากยิ่งขึ้น พร้อมเครื่องยนต์แบบ V6 ความจุ 3.8 ลิตรที่รีดพลังได้ถึง 555Ps และให้แรงบิดสูงสุดถึง 632 Nm นับเป็นการส่งผ่านดีเอ็นเอความเป็นเจ้าตำนานของจีที-อาร์ไปสู่รถรุ่นปัจจุบัน
“พิสิทธิ์ จันทรเสรีกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม นิสสัน กรุงไทย จำกัด เล่าวว่า “ผมโตมากับ จีที-อาร์ เห็นจีที-อาร์เป็นฮีโร่ เป็นความฝันของเรา เป็นสุดยอดแห่งตำนานมอเตอร์สปอร์ต สำหรับผู้ชายคนหนึ่ง การมีโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของรถในฝันคันนี้ คือความสุขที่สุดในชีวิต ในประเทศไทยมีแฟนพันธุ์แท้ของนิสสัน จีที-อาร์อยู่มาก สยาม นิสสัน กรุงไทยเอง รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์สมรรถนะสูงของนิสสันรุ่นนี้ ด้วยการได้รับอนุญาตให้เปิดบริการ Nissan High Performance Center เพื่อให้บริการหลังการขายที่เต็มรูปแบบสำหรับลูกค้า จีที-อาร์
ติดตามได้ทาง https://nissan.co.th, Facebook, Instagram, Twitter, LinkedIn, YouTube