สิงห์บุรี จังหวัดนำร่องพัฒนาการท่องเที่ยวเมืองรองผ่านงานศิลปะ การออกแบบร่วมสมัยและเทคโนโลยีมาช่วยเสริมพลังและเสน่ห์ให้กับวัฒนธรรมดั้งเดิมและสร้างสินค้าท่องเที่ยวใหม่ในรูปแบบ Contemporary man-made tourism products หรือแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนในพื้นที่ร่วมกันสร้างขึ้น ในเทศกาล “แสง สี สิงห์” (Let’s Glow Singburi) ระหว่างวันที่ 18-27 สิงหาคม 2566 นี้
เทศกาล ได้ถูกจัดขึ้นโดยสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น Crosswalk Art ศิลปะบนพื้นถนนในรูปแบบของทางข้ามที่จะเกิดขึ้นที่สิงห์บุรีเป็นที่แรกและจะกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ในการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่, Neon Light Art ศิลปะที่นำเอาสัญลักษณ์ของจังหวัดมาตีความและออกแบบใหม่ให้มีความร่วมสมัยและติดตั้งตามสถาปัตยกรรมของอาคารที่เป็นแลนด์มาร์กเพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวยามค่ำคืน, Hidden Sculptures รูปแบบ Installation Art ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของสิงห์บุรีเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินตามหาประติมากรรมเหล่านี้และกระจายรายได้ไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อยตามเส้นทาง, WABU แอพพลิเคชั่นเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวด้วยตัวเองรูปแบบใหม่ Digital-self-walking-guide ครั้งแรกที่สิงห์บุรี
Night Museum มิวเซียมสิงห์และอาคารศาล รศ.129 ที่เปิดให้ชมเป็นกรณีพิเศษเฉพาะในช่วงเทศกาลเท่านั้น, ครั้งแรกของสายมู ไหว้พระยามค่ำคืนและชมการประดับไฟบนสถาปัตยกรรมเก่าแก่เกือบ 200 ปีของวัดพรหมสาครและวัดสว่างอารมณ์, ถนนคนเดินและเทศกาลอาหาร รวมของดีร้านอร่อยของสิงห์บุรี เช่น แม่ลาปลาเผาและผัดไทยนักรบบ้านระจัน รวมถึงที่ตลาดย้อนยุค, การแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านและคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง, DIY พวงมโหตร และ Art Workshop สำหรับเด็กโดยบ้านควายอาร์ต, ฝึกอบรมเพิ่มทักษะในการใช้สื่อดิจิตัลเพื่อพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยผ่านโครงการ “เน็ตทำกิน” โดยความร่วมมือกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
สุภนิช พริ้งพร้อม เจ้าของร้านแม่ลาปลาเผา สิงห์บุรี ต้นตำรับปลาช่อนแม่ลาเผาด้วยวิธีการรมควัน ตั้งแต่แรกเริ่มจากคุณพ่อ กล่าวว่า “ปลาช่อนแม่ลาเป็นปลาที่อยู่ในลำน้ำแม่ลาเป็นลำน้ำปิด ก็เลยจะทำให้มีแร่ธาตุและก็พวกปลาทั้งหลายที่อยู่ในลำน้ำนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษก็คือ เนื้อจะแน่นและก็จะมีความที่พวกเขาได้แร่ธาตุทั้งหลาย ก็จะมีความอร่อย ที่ขึ้นชื่อของเราคือ ปลาเผา ปลาแดดเดียว นอกจากนั้นก็ทำเป็นกับข้าวทั่วไปเช่น ต้มยำปลาช่อน ปลาช่อนฟูผัดพริกขิง ทางร้านจะใช้ตัวน้ำหนัก 8 – 9 ขีด ถึง 1 กก ใหญ่เกินไปเนื้อจะเหนียวไม่อร่อย ถ้าเล็กเกินไปเนื้อจะน้อยก้างจะเยอะ กินกับน้ำจิ้มต้นตำรับที่เราได้มาจากภูเก็ต ซึ่งเมื่อก่อนเราเปิดร้านอาหารปลาเผาเหมือนกัน แต่เป็นปลากะพงเผา”
นายคมฉาย ยี่สุ่นทอง แชมป์ของจังหวัดสิงห์บุรีกับเมนูผัดไทยสองยุคและหอยทอดชีสสามแผ่น พูดว่า “สูตรนี้ไม่ต่ำกว่า 30 ปี ผมต่อทอดมาจากคุณยาย ผมทำได้ 13 ปี อันนี้เป็นผัดไทยปรุงรสสำเร็จรูปเจ้าแรกเจ้าเดียวของจังหวัดสิงห์บุรี ส่วนสติ๊กเกอร์นี้ทางจังหวัดออกให้ครับ ไม่ใส่สารกันบูด เทใส่ได้เลย เปรียบเสมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งซอง ที่ร้านจะมีผัดไทยโบราณ ผัดไทยวุ้นเส้น ผัดไทยปลาช่อน ผัดไทยปลาหมึก ผัดไทยกุ้งสด ผัดไทยห่อไข่ สำหรับผัดไทยสองยุคที่นำไปประกวดระดับประเทศและได้แชมป์มา คือ ระหว่างเส้นจันท์และวุ้นเส้น ผมนำเสนอว่า เส้นจันท์ก็คือเส้นยุคสมัยก่อน รุ่นที่ผมยังไม่เกิด แต่ส่วนที่ผมเกิดมาสมัยนี้ คือผมเด็กสมัยใหม่ เป็นวุ้นเส้น แบ่งแยกการผัดคนละกระทะ นอกจากนี้ยังมีหอยทอดชีสสามแผ่น เป็นหอยทอดธรรมดาที่เราทานกันปกติแต่ใส่ชีสลงไป ตัดเป็นสามแผ่นสไตล์พิซซ่า ดึงขึ้นมาจะกินมีความยืดเหมือนพิซซ่า ได้แชมป์เพราะความอร่อย”
อำภา พิราวรรณ ข้าราชการบำนาญอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี นำเสนอการตัดพวงมโหตร เครื่องแขวนในงานมงคล งานบวช งานแต่ง งานบุญต่างๆ ประดับเพื่อให้ความสวยงามในงานและก็เป็นสิริมงคลในงานนั้นๆ เชียงใหม่เรียกว่า ตุง ภาคอีสานเรียกว่า พวงมาลัย ทางนครสวรรค์และระยองเรียกว่า เต่ารั้ง ถ้าเป็นทางเพชรบุรี นครปฐม ภาคกลาง เรียกว่า พวงมโหตร
ติดตามได้ทาง Facebook, Instagram: “SangSeeSing-แสงสีสิงห์”, สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร 088-214-1111
