“ส.ว.สมชาย” หากพิธาชนะก็ไม่สามารถขึ้นทูลเกล้า

นายสมชาย แสวงการ หนึ่งในสมาชิกวุฒิสภาที่ออกมาเตือนกกต. เร่งสรุป ปม.พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ม.151 หากพบผิด ระวังจะเจอ ม.157 พร้อมเคลียร์ชัด หลังจากที่มีข่าว กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีปมหุ้นสื่อ แถมเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระตุ้นให้มีการตรวจสอบและประเด็นต่างๆอาทิ มาตรา 112 ร่างแท้จริงที่ตนเห็นเป็นอย่างไร, ส.ว.ไลน์หลุดจริง, เชื่อ พิธา คะแนนไม่ถึงอยู่แล้วจริงหรือไม่ ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27

ทำไมออกตัวสุดโต่งเรื่องจะไม่โหวตให้คุณพิธาคะ?

ผมเข้าใจว่าสื่อเขียนไปเช่นนั้นนะครับ แต่ความจริงผมยังไม่ตัดสินใจ (หัวเราะ) แล้วก็บอกว่าถ้าไม่โหวตเพราะมีเงื่อนไข 1 2 3 4 ประการแรกผมพิจารณาคนจะเป็นนายกรัฐมนตรี ผมให้คุณสมบัติ 4 ข้อก่อน 1.มีความซื่อสัตย์สุจริตไหม สำหรับคุณพิธา และคนอื่นที่จะมาเนี่ย ต้องตรวจให้คะแนนว่าผลงานปัจจุบัน และอดีตมีความน่าสนับสนุนไหม 2.มีความรอบรู้ที่จะเป็นผู้บริหารได้ไหม 3.มีวิสัยทัศน์ไหม และ 4.สร้างแรงบันดาลใจให้กับคน สมมติสร้างแรงบันดาลใจให้สร้างความรุนแรงก็ไม่เอา แต่ที่บอกไม่เลือกมีเหตุผลอีกคือปัจจัยแวดล้อม วันนี้คุณพิธาเอง พรรคก้าวไกลเอง ไม่ใช่ตัวคุณพิธาอย่างเดียวนะ และมวลชนด้วยเนี่ย ก็ไปตั้งเงื่อนไขที่เป็นปัญหาของสังคม

จริงไหมคะ ทางส.ว.มีการประชุมกัน ซุบซิบและแจกกล้วยกัน ทำไมทำแบบนี้คะ?

ก็มี 2 กระแส กระแส1. ส.ว.ท่านนึง บอกว่าท่านได้รับโทรศัพท์ จะไม่ให้ไปโหวตคุณพิธาโดยมีกล้วยอย่างที่ว่า ซึ่งผมก็บอกว่าตรรกะนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะน่าจะมีคนโทรไปอำท่าน แต่โทรศัพท์ไป มันไม่มีเหตุผลให้ส.ว.ไม่โหวตให้กับคุณพิธา เพราะเสียงที่จะโหวตให้คุณพิธา มันก็ไม่พออยู่แล้ว จะไปดึงออกทำไมอันนี้ท่านที่ 1 แล้วท่านนั้นเนี่ยผมก็ตรวจ 1 ใน ส.ว.แล้วก็ขณะนี้คิดว่ามี ส.ว.ที่ยืนยันชัดเจนผ่านสื่อ 11 ท่านแค่นั้นเอง ที่จะโหวต ที่เหลือยังไม่ได้ตัดสินใจ และบอกครับฯลฯ

ท่านออกมาจี้กกต.และให้รีบยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเร็วๆ ทำไมท่านต้องทำขนาดนั้น?

ผมเห็นประเด็นทางข้อกฎหมาย และก็เห็นว่าเป็นห่วงกกต. ส่งแรงเชียร์ด้วยนะ เพราะกรณีมีผู้ร้องคุณพิธา กรณีถือหุ้นสื่อ itv2 เดือนแล้วก่อนเลือกตั้งอีก ก็กกต.บอกตีตกไปแล้ว พอคุณพิธาได้รับรองเป็นส.ส.ก็กลุ่มนี้ก็ไม่ร้องอีก กกต.ก็บอกว่าใช้มาตรา 151 เห็นเองว่ามีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง อ้าวก็เลยไปกันใหญ่ ผมก็เลยบอก เอ๊ะ ทั้งหมดระยะเวลาเนี่ย  2 เดือนแล้ว ถ้าเทียบกับกรณีอื่นๆ กรณีของคุณธนาธร กรณีของพลเอกประยุทธ์เร็วกว่านี้  ผมเองก็ถูกร้องนะ เมื่อปี 53-54  ก็ถูกร้องเรื่องการถือหุ้นเหมือนกัน ซึ่งกกต.ก็ส่งเร็วกว่านี้ครับ

แต่เที่ยวนี้ส่งล่วงหน้าแค่วันเดียวที่จะมีการโหวตนายกฯ ทำไมไม่ทำเร็วกว่านี้กั๊กไว้แน่นอน?

ความจริงควรจะส่งเร็วก่อน 2 อาทิตย์ที่แล้วอีก ไม่ใช่เพิ่งมาส่งวันนี้ เลยทำให้เข้าใจผิด ความจริงเนี่ย กกต.มีหน้าที่ตามมาตรา 82 วรรคท้ายอยู่แล้วว่า เมื่อพบเห็นข้อต้องสงสัย เพราะคุณพิธาถือหุ้นสื่อitvจริงๆ 42,000 หุ้น ส่วน itv ยังเป็นสื่อ และปฏิบัติงานหรือไม่เนี่ย อำนาจวินิจฉัยอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ คุณพิธาก็ต้องสู้ว่าแกไม่ได้ถือหุ้นและเป็นมรดกก็ต้องไปสู้ แต่ทางกฎหมายเพ่งเนี่ย มันก็ระบุอยู่แล้วว่า แม้เป็นผู้จัดการมรดก 1 ใน 3 ที่มีแก น้องชาย และคุณแม่ ก็ถือ 14,000 หุ้น คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็เคยวินิจฉัยว่ามีหุ้นเดียวก็ผิด

สมมติว่าคุณพิธาได้เป็นนายกฯ แต่อีกอาทิตย์นึงคุณพิธาหมดสิทธิ์ มันเกิดอะไรขึ้น?

นั้นแหละครับ มันจะเป็นปัญหาด้านกฎหมาย ซึ่งผมก็เรียนแล้วว่าจริงๆ ถ้ากกต.ทำเร็วกว่านี้อาทิตย์นึงนะ แล้วส่งไปศาลวินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เราก็จะชัดเจน แต่พอส่งมาวันนี้ก็คาดหมายว่าพรุ่งนี้คงจะโหวตไป แล้วถ้าเกิดผ่าน ก็จะเกิดข้อคำถามว่า โหวตผ่านแล้วเนี่ยจะนำขึ้นทูลเกล้าไหม ความเห็นผมนะ ควรรอ ยังเดินหน้าต่อไปไม่ได้ เพราะว่าเราไม่สามารถนำสิ่งที่ไม่ถูกต้องแปดเปื้อนขึ้นทูลเกล้าได้ เพราะ 1.จะเกิดปัญหากับสถาบัน พระเจ้าอยู่หัวลงพระปรมาภิไธยขึ้นมา ก็จะเกิดคำถามว่าศาลยังไม่ตัดสิน 2.ถ้าเกิดคุณพิธาต้องไปตั้งคณะรัฐมนตรี 35 คน เกิดมีคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่การบริหารราชการแผ่นดินมีมติ ค.ร.ม. เรื่องใดเรื่องนึง ตั้งแต่งบประมาณแผ่นดิน หรือเรื่องอะไรมันก็จะโมฆะไปหมดเลย นั้นคือปัญหา

ทำไมนักการเมืองก้าวขึ้นมาสู่ระดับสูงก็ถูกตีตกไปด้วยอุปกรณ์ชิ้นเดียวกันคือ itv?

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ใครไปใส่มือคุณพิธา หรือคุณธนาธร คุณพิธาคุณธนาธรไปถือหุ้นเอง ผมเองก็ถูกร้องนะครับ เคยเป็นสื่อแต่บังเอิญไม่ได้ถูกร้องถือหุ้นสื่อ แต่ในกรณีเดียวกันมีคนถูกวินิจฉัยที่ถูกร้องในขณะนั้นเป็นร้อยคน มีรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งไปแล้ว 1 คน ส.ส. 5 คน เพราะถือหุ้นสื่อ ถือหุ้นพลังงาน อันนี้ในรัฐธรรมนูญตั้งแต่ 40 50 60 เขาเขียนป้องกัน อันนี้ก็น้อยใจครับอาจารย์ คนเคยเป็นสื่อเก่า เขาห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถือแม่แต่หุ้นเดียวก็ไม่ได้

ส.ว.ไม่พอใจพรรคก้าวไกล เพราะนโยบายมาตรา 112 ใช่ไหมคะ ข้อเดียว?

ไม่จริงเลยครับ ผมเรียนเลยว่า เรื่องที่พูดเรียนปัญหาต่างๆ เป็นองค์ประกอบกัน เราจะพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดินเนี่ยตั้งแต่เรื่องเลยว่า ประเทศชาตินอกจากอาณาเขตพลเรือน มันมีองค์ประกอบสำคัญ เราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรามีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน องค์ประกอบเนี่ย เราต้องดูหมด ส่วนใดส่วนหนึ่งเสียเสาหลักไป เสียความสำคัญอันตราย  ตอนนี้พรรคก้าวไกลเคยเสนอ อันนี้เรื่องเดียวนะคือ มาตรา 112 แก้ไข ยกเลิก ผมได้ตรวจร่างกฎหมายที่เขาพยายามเสนอเข้าสภา 2 ครั้ง ขัดรัฐธรรมนูญในร่างที่ส่งเข้าไปนอกจากขัดรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนโหมดกฎหมายธรรมดา จากโหมดความมั่นคงที่คุ้มครองประมุขของไทย เราให้พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ อยู่เหนือการเมืองตั้งแต่ พ.ศ.2475 มา ก็ต้องมีมาตรการปกป้องคุ้มกันระดับนึงว่า ทรงอยู่เหนือการเมือง เพราะฉะนั้นพระมหากษัตริย์จะมาฟ้องร้องการเมืองไม่ได้ เช่นเดียวกับกฎหมายสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมันมีหมด กฎหมายคุ้มกันประมุข เพราะฉะนั้นกฎหมายมาตรา 112 ที่เราเห็น ไปแก้ออกจากโหมดความมั่นคง นั้น หมายความว่า 1.พระมหากษัตริย์จะเป็นคู่กรณีกับประชาชน 2.ลดฐานะของมหากษัตริย์ต่ำกว่ากฎหมายหมิ่นประมาทของประชาชน อาจารย์เชื่อไหมครับกฎหมายมาตรา 112 เดิมมาตราเดียวเขียนว่า ห้ามผู้ใดหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ถึง 15 ปี ไปแก้ให้เป็นแบบนี้ครับ ไปยกเลิกมาตรา 112 และเขียนมาตราใหม่ขึ้นมาบอกว่าผู้ใดหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ผู้นั้นได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี (พระราชินี องค์รัชทายาทออก) หมายถึงว่าไม่ลงโทษจำคุกก็ได้ 1 วันก็ได้ จาก 3 ปี ตั้งแต่ตัดสิน 2.มาตราถัดไปบอกว่า หากมีการติชมโดยสุจริตเพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะไม่ต้องรับโทษ หากเรื่องนั้นเป็นความจริงไม่ต้องรับโทษ มีหลักฐาน? มีหลักฐานชัดเจน ที่ประชนไม่เห็น และเอาพระราชินี กับองค์รัชทายาท ลดครึ่งราคา หากหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระราชินี กับองค์รัชทายาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หากมีการติชมโดยสุจริต เพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะไม่ต้องรับโทษ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *