“สร-ชลนสร สัจจกุล” ไอดอลสาวชาวไทยที่ไปโด่งดังในวงการ K-Pop อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปวง CLC มาเปิดใจถึงเรื่องราวดราม่าที่ผ่านมาในชีวิตหลังออกจากค่ายเพลงเกาหลีเคว้งถึงขนาดเคยคิดจะเลิกร้องเพลงออกจากวงการและบทเรียนจากความผิดพลาดในอดีต พร้อมเล่าถึงความสนิทกับกลุ่มเด็กไทยในวงการเกาหลีอย่างลิซ่าและแบมแบมฯลฯ ในรายการ Woody FM ทาง Podcast: WOODY FM, Facebook: Woody, YouTube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.
สรไปเดบิวต์ที่เกาหลีตอนนั้นอายุเท่าไหร่?
สร: เดบิวต์ตอนนั้นอายุ 18-19 ปี
เป็นศิลปินแก๊งค์เด็กไทยที่เกาหลีกันได้ยังไง?
สร: ก็คือตอนที่สรกำลังจะย้ายไปที่เกาหลี สรได้เรียนร้องเพลงกับครูโรจน์ซึ่งบอกว่ามีน้องที่ไปแล้ว 2 คนก็คือแบมแบมและลิซ่า ทั้งสองเคยเรียนกับครูคนอื่นที่อยู่ภายใต้ครูโรจน์ และให้คอนแทคเพื่อติดต่อกันเองจะได้มีเพื่อนอยู่ที่โน้น ตอนนั้นสรอายุห่างจากแบมแบมกับลิซ่าแค่ปีเดียวก็เลยได้ไลน์มาแล้วก็ทักไปแล้ว ตอนที่เราเป็นเด็กฝึกหัดพวกเราทุกคนจะได้วันหยุดคือวันอาทิตย์ ตัวค่าย JYP Entertainment กับ Cube Entertainment ตึกอยู่ข้างๆกันเวลาเรากินข้าวเที่ยงก็ต้องไปกินข้าวที่เดียวกัน แล้วสรเจอแบมตั้งแต่ตัวเล็กๆ สรก็เลยเอ๊ะ น้องคนนี้แน่เลยที่ชื่อแบมแบมก็เลยเข้าไปทัก
ก็เหมือนเขารู้กันอยู่แล้วว่าจะมีเด็กใหม่เข้ามาก็เลยเป็นเพื่อนกันส่วนลิซ่าก็คืออยู่ YG Entertainment ก็ทักเขาไปว่าเราเพิ่งมาถึงเกาหลีเขาก็เลยบอกว่าถ้าวันอาทิตย์ถ้าว่างเจอกันตอนนั้นก็อายุ 14-15 เด็ก 2 กันไปนั่งกินข้าวกันส่วนมินนี่เป็นเทรนนี่คนไทยคนต่อไปต่อจากสรพอน้องเข้ามาบริษัทตอนนั้นสรก็เดบิวต์แล้วค่ายก็บอกว่าจะมีเด็กใหม่ช่วยไปดูให้หน่อยพ่อกับแม่น้องเขาก็เป็นห่วงน้องตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาก็จะเห็นมินนี่เหมือนเป็นน้องเทคแคร์น้องตลอดส่วนพี่นิชคุณทุกคนก็รู้จักกันอยู่แล้วและในกรุ๊ปไลน์ก็จะมีเตนล์อีกคนหนึ่งซึ่งเราก็จะรู้จักผ่านเพื่อนๆคนอื่นเหมือนกันก็เลยสร้างไลน์กรุ๊ปขึ้นมาให้เพื่อนได้คุยกันก็เลยกลายเป็นกลุ่มเพื่อนซี้แก๊งค์หนึ่งที่อยู่ในวงการเดียวกัน
มาเจอกันบ้างไหมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา?
สร: เจอกันบ้างนะคะแบบจะไปกินข้าวบ้านใครหรือไปกินข้าวที่ร้านอาหารไหนแต่ว่าด้วยความที่ทุกคนยุ่งบางทีก็เจอกันไม่ครบบ้างบางทีก็เจอกัน 3 คนบางทีก็เจอกัน 4 คนบางทีเจอกันแค่สาวๆอะไรอย่างนี้
เวลาอยู่ด้วยกันแก๊งค์ไทยที่โน้นจะพูดภาษาเกาหลีหรือภาษาไทย?
สร: (หัวเราะ) คือเวลาอยู่ด้วยกันเคยแซวกันเองว่าถ้ามีใครมาเห็นเราคุยกันเขาคงหมั่นไส้เนอะเพราะว่าเราจะพูดอังกฤษคำไทยคำเกาหลีคำคือพูดแบบสลับภาษาบางทีคุยกันเองยังงงเลยค่ะเพราะว่าเหมือนสลับกันไม่ทันจนสรคิดว่าโชคดีมากๆที่มีเพื่อนในวงการเดียวกันที่ประสบความสำเร็จแบบนี้เพราะว่ามันทำให้เราเห็นสเกลว่าถ้าเราจะได้ดีมากๆมันต้องเป็นแบบนี้แต่ถ้าแบบไม่ดีเลยมันจะเป็นแบบนี้สรเห็นสโคปของดีที่สุดและไม่ดีที่สุดเรารู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรต้องทำอะไรบ้างสรก็หยิบตรงนั้นมาเป็นการเรียนรู้
นึกถึงเหตุการณ์ไหนเกี่ยวกับตัวตนในอดีตที่ผ่านที่รู้สึกว่ามันสอนเรา?
สร: ในอดีตสรก็มีประเด็นค่อนข้างเยอะแบบว่าทำอะไรไม่คิด
เป็นเพราะว่าสรได้คอนโทรลตัวเองในโซเชียลมีเดียด้วยหรือเปล่า?
สร: ใช่ค่ะพอเราเริ่มเปิด Instagram, TikTok และ YouTube ค่ายเขาจะไม่ค่อยคอนโทรลเรื่องนั้นมากเท่าไหร่ก็เลยกลายเป็นว่าเวลาเราจะลงอะไรทำอะไรได้เองหมดเลยมีอิสระในการลงตัดภาพมาตอนนี้ก็เลยกลายเป็นคนที่รอบคอบมากขึ้นมากกว่าก็คือเรียนรู้จากอดีตจากที่เราเคยลงโน้นลงนี่ก็กลายเป็นว่าไม่ค่อยอยากจะลงมากเท่าไหร่แล้วก็ไม่ค่อยที่จะเปิดเผยว่าตัวเองคิดอะไรทำอะไรอยู่เพราะว่าเรากลัวว่ามันจะผิดจังหวะอีก
ตัวตนของสรเป็นแบบไหน?
สร: เป็นคนที่อินโทรเวิร์ตมากๆเป็นคนที่เก็บเนื้อเก็บตัวแล้วก็ไม่ชอบสุงสิงกับคนอื่นเพราะว่าไม่ค่อยมีพลังในการไปสุงสิงกับคนอื่นแต่ว่าเป็นคนที่มีสวิตซ์ในการเปิดและปิดด้วยความที่อาชีพด้วยเนอะเลยกลายเป็นว่าถ้าต้องเปิดก็เปิดไปเลยถ้าต้องปิดก็คือจะเงียบๆอยู่คนเดียวค่อนข้างเซนซิทีฟมีอีโมชั่นเยอะเป็นคนหลายอารมณ์มากที่บ้านพี่ๆที่โตมาด้วยกันก็จะชอบพูดว่าสรเป็นเด็กที่ติสมากบางทีก็อารมณ์ดีบางทีก็อารมณ์ไม่ดีแล้วเป็นคนที่ชอบทำงานมากเวลาที่ไม่มีงานก็จะหางานให้ตัวเองทำจะไม่มีวันที่อยู่บ้านเฉยๆเวลาที่ไม่ทำจะรู้สึกว่าตัวเองถอยหลังไม่ทันเขามันเป็นมายเซ็ทที่ทำให้สรช่วยผลักตัวเองเรื่อยๆวันที่ไม่มีงานหรือไม่ทำอะไรเลยเราจะเสียเวลาไป 1 วันในการที่จะเข้าไปใกล้เป้าหมายมากขึ้นด้วยความที่เดี๋ยวนี้มีดาราเซเลปและอินฟลูเอนเซอร์เยอะเราก็จะรู้สึกว่าเหมือนเราค่อยๆเฟดหายไป
ที่ผ่านมาเคยรู้สึกไม่แฮปปี้กับตัวเองไหม?
สร: มีแว๊บบ่อยนะช่วงที่พอออกมาจากค่ายเก่าก็รู้สึกว่าเราไม่ใช่ K-pop อีกต่อไปแล้วเพราะว่าเราไม่มี CLC ก็เลยคิดว่าหลังจากเกาหลีจะไปอยู่ไหนดีเราไม่มีเกิร์ลกรุ๊ปแล้วเราก็ไม่ได้ออกเพลงภาษาเกาหลีเพราะฉะนั้นเราไม่เมคเซ้นส์ที่จะเรียกตัวเองว่า K-pop อีกต่อไปแล้วตัวสรเองก็ชอบเพลงแบบแนวป๊อบมากกว่าเพลงฝรั่งมากกว่าก็เลยอยากจะไปอยู่ตรงนั้นก็คิดในใจว่าโอเคอยากไปอยู่ LA ถ้าใครติดตามอินสตาแกรมสรจะรู้ว่าสรเป็นคนชอบ LA มากอยากอยู่อยากมีชีวิตที่โน้นอยากทำเพลงที่โน้นเวลาไปทีไรจะมีความสุขเกินเบอร์มากคือตัวอยากไปอยู่แต่ถามว่าในแง่ของอาชีพไปอยู่ได้หรือยังแต่คุณมีตลาดหรือยังมีคนดูหรือยังยังไม่ได้มีใครฝั่งโน้นที่จะรับรองเราเอเจนซี่บริษัทที่คอนเฟิร์มได้ว่าคุณจะสามารถไปสร้างอาชีพตรงนั้นได้หรือยังถ้า LA ไปอยู่ไม่ได้ก็ต้องกลับไทย
แต่ช่วงที่ออกมาจาก CLC ก็มีประเด็นมาเรื่อยๆแล้วที่ไทยก็ยังมีคนที่ไม่ชอบเราอยู่เยอะเลยคิดในใจว่าถ้ากลับไทยต้องเครียดหนักเลยกลัวว่าณตอนนั้นยังมีคนอยู่เยอะที่เขาไม่เอาเราแล้วคนไม่ชอบเราเยอะจนขนาดพี่แฟนคลับชาวไทยต้อง DM มาบอกเราว่าน้องสรไม่อยากซัพพอร์ตแบบโจ่งแจ้งเกิดไปเพราะว่าเขาก็กลัวว่าจะโดนคนอื่นๆโจมตีเขาเขาเลยบอกพี่ขอส่งเป็น DM ละกันนะคะอยากจะบอกน้องว่ายังคงซัพพอร์ตน้องเสมอไม่ว่าน้องจะทำอะไรแต่ช่วงนี้กระแสกับความเข้าใจผิดของคนมันเกินเลยไปมากกว่าที่พี่จะมานั่งแก้ให้ทีละข้อเลยคิดว่าสงสัยเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะกลับไปที่บ้านเกิดของตัวเองตอนนั้นเป็นช่วงที่โหว่งมากแต่เราก็ยังไม่อยากจะทิ้งความฝันตอนนั้นคิดว่ามีความสามารถก็จริงแต่ถ้าไม่มีตลาดไหนหรือประเทศไหนที่ซัพพอร์ตเรามันก็อยู่ไม่ได้หรือว่าเลิกดีนะก่อนที่จะมาเซ็นกับ WILD Entertainment ตอนแรกสรบอกกับทุกคนไว้แล้วว่าเลิกดีกว่าจนมาเจอ WILD Entertainment โชคดีจังหวะดีมากอยู่ดีๆมีงานที่สิงคโปร์เข้ามาเรื่อยๆแล้วก็ไปเจอโปรดิวส์ที่ถูกใจก็ลองทำเพลงมาเรื่อยๆจนกลายมาเป็นทุกวันนี้
ใน 10 ปีที่ผ่านมาคุณมีความรักบ้างไหมคุณเป็นแฟนประเภทไหน?
สร: หนูเป็นคนที่ชอบดูแลคนมากและมีความสุขมากเวลาได้ดูแลแฟนตัวเองทุกคนที่คบมาจะคบกันนาน 2-3 ปีขึ้นหมดเลยเป็นคนที่ชอบความสัมพันธ์ที่จริงจังที่มั่นคงแล้วชอบคนที่สามารถซัพพอร์ตเราทางด้านงานจริงๆแล้วเป็นคนที่ชอบเทคแคร์คนอื่นไม่ใช่แค่แฟนคือทุกคนที่อยู่รอบข้างมีความสุขกับการได้ช่วยเหลือคน
ส่วนใหญ่เป็นคนไทยหรือต่างชาติ
สร: ยังไม่เคยคบคนไทยเลยค่ะคบแต่ต่างชาติส่วนใหญ่เป็นเกาหลีเชื้อสายอเมริกันมากกว่าไม่เคยคบเกาหลีด้วยไม่เคยคบคนไทยจ๋าตอนนี้สเปคไม่รู้ว่าเพราะโตขึ้นหรือเปล่าแต่ในตอนนี้คือไม่ได้มีสเปคด้วยนะอารมณ์แบบว่าถ้ามันคลิกกันก็คือคลิกกันไม่แคร์ว่าเป็นชาติอะไรตอนนี้ยังโสดค่ะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็เกิดไม่ใช่คนที่แบบออกไปหาคือเราตั้งใจและมีความสุขกับการทำงานดีกว่า
ติดตามได้ทาง Facebook: Woody, Instagram: Woodytalk, YouTube: Woody, Twitter: @Woodytalk, TikTok: woodywoody, LINE: @woodytalk