“ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” มานั่งคุยถึงประเด็นร้อนที่ประชาชนเกิดข้อสงสัยในมุมต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์จะสามารถผ่านการโหวตจาก สว.ขึ้นเป็นนายกฯได้หรือไม่ แถมข่าวเสียที่ว่า 2 พรรคใหญ่จากคะแนนเสียงประชาธิปไตยแตกคอกัน มันเกิดขึ้นจริง หรือแค่ข่าวลวงในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27
เรื่องตำแหน่งประธานสภามันสำคัญขนาดไหนคะ?
เรื่องนี้ถ้าจะมองเป็นเรื่องใหญ่โตก็มองได้ แต่ในทัศนคติผมเป็นเรื่องธรรมดาของการฟอร์มรัฐบาลผสม มันต้องมีการพูดคุยมีการเจรจาต่อรอง การแสดงความประสงค์ แสดงความต้องการของแต่ละฝ่าย หลังจากนั้นเขาก็จะลงมือคุยกันมองอีกด้านนึงนะ การจัดตั้งรัฐบาลคราวนี้ 312 มันเดินเร็วกว่าที่คาดด้วยซ้ำไป ตำแหน่งนายกฯจบแล้ว พิธา ลิ้มเจริญรัตน์แน่ๆ เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงไหนอยู่กับใคร ก็เห็นมีสื่อมวลชนเขาเอามารายงาน และก็ไม่มีพรรคไหนปฏิเสธอย่างเป็นทางการ ผมก็สันนิษฐานว่า มันน่าจะเป็นอย่างนั้น ลงตัวแล้วมั้ง ก็เหลือแต่เรื่องประธานสภาซึ่งให้คนที่เขามีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องเขาตั้งโต๊ะคุยกัน ผมว่ามันจบ ทุกรัฐบาลผสมเวลามีการฟอร์มเวลามีการจัดตั้ง มันต้องมีกลไกพวกนี้ครับ
ตำแหน่งประธานสภาต้องมาจากพรรคที่มีเสียงข้างมาก แต่ทำไมพรรคเพื่อไทยต้องการ?
คำถามของอาจารย์มันมีข้อเท็จจริงอีกมุมนึงที่อยากจะเล่าให้ฟังก็คือ การเลือกตั้งคราวนี้ การจัดตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้ มันไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา สมัยก่อนพรรคอันดับ1 อันดับ 2 จะอยู่คนละขั้วกัน ถ้าพรรค 1 ตั้งรัฐบาล พรรค2 จะเป็นฝ่ายค้านเสมอ มายุคไทยรักไทย เพื่อไทยนี่แหละที่มีได้เกินครึ่งชนะเด็ดขาด อันนั้นจบในตัวแม้จะมีพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ต้องตกลงอะไรกันมาก เพราะคะแนนมันห่างกันเยอะ ทีนี้คราวนี้ พอพรรคอันดับ 1 อันดับ 2 คะแนนห่างกันไม่มาก แล้วก็อยู่ขั้วเดียวกัน การพูดคุยตำแหน่งต่างๆมันก็เลยเกิดขึ้นแล้วรู้สึกแปลกในสายตาประชาชน ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องแหละครับ ต้องไปจับเข่าปิดห้องคุยกัน ผมยังมั่นใจครับว่าถึงที่สุดเขาตกลงกันได้ จะจบแบบไหนก็ตาม เขาตกลงกันได้? ใช่ครับ
ไม่ใช่พรรคเสียงส่วนมากควรนั่งเก้าอี้ประธานสภาเหรอคะ?
ผมไม่ขัดข้องเลย เขาไม่มีกฏข้อนี้ไว้?มันไม่ได้เป็นกฎหมาย ใช่ครับ ไม่ได้ถูกเขียนมาเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วถ้าถามว่าพรรคที่1 เคยเป็นประธานสภาไหม พรรคที่สองเคยเป็นไหมก็มี ส่วนตัวผมนะ นายกรัฐมนตรี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์แน่ๆ ไม่มีบิดพลิ้ว ทุกฝ่าย 312 เสียงต้องโหวตตามนั้น ส่วนประธานสภาเนื่องจากเขาเห็นต่างกัน ผมขออนุญาตสงวนท่าทีให้เขาคุยกันเอง จบแบบไหน แบบที่เขารับกันได้ อธิบายประชาชน ตรงนั้นเรารับหมด
จะเป็นเหตุให้พรรคประชาธิปไตย 2 พรรค พังไปหมด เสียเกม?
เรื่องนี้ทุกพรรคที่จับมือรัฐบาลเป็น 312 เสียง แล้วต้องรับผิดชอบร่วมกันนะครับ แต่ส่วนสำคัญที่สุดคือก้าวไกล กับเพื่อไทย 2 พรรคนี้จะปล่อยมือกันไม่ได้ และจะบิดพลิ้วเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เมื่อพรรคก้าวไกลเป็นพรรคอันดับ 1 เขาต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล การกำหนดกระทรวงที่จะกำกับดูแล ก้าวไกลเขามีความชอบธรรมที่จะเลือกก่อน ตัดสินใจก่อน ตามนโยบายที่จะให้คำมั่นกับประชาชน พรรคเพื่อไทยมีหน้าที่สนับสนุน มีหน้าที่ยกมือโหวต ให้กับคุณพิธา และจะไม่มีการตั้งรัฐบาลแข่ง ไม่มีดีลรับบนโต๊ะ ใต้โต๊ะใดๆทั้งสิ้น
คนบางคนเขากลัวบรรดาลุงทั้งหลายนั่งตบมือยิ้ม เตรียมตัวกลับ?
ก็นี่แหละอาจารย์ครับ ที่ผมจะตั้งข้อสังเกตว่า ดีลลับหรือข่าวทำนองนี้ ที่มันออกมาไม่มีหยุดหย่อนเนี่ย มันเป็นไปได้ไหมว่าคนบางกลุ่ม กำลังพยายามเขย่า รัฐบาลผสมที่กำลังจับมือกันอยู่ อาจารย์ต้องมองภาพนะครับ ถ้าหาก 312 เสียงนี้จัดตั้งรัฐบาลกันไม่ได้ใครได้ประโยชน์สูงสุด บรรดา แล้วตั้งแต่เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา จนวันนี้ ลุงตู่ ลุงป้อมไม่เคยประกาศความพ่ายแพ้ คนอื่นเขาได้กัน 140-150 ตัวเองได้ 30-40 ไม่เคยพูดนะครับว่านี่คือความพ่ายแพ้ ว่านี่คือการปฏิเสธของประชาชน ใครจะมานั่งพูดว่าผมแพ้? ด้วยสปิริตครับอาจารย์ ทีนี้ประเด็นต่อมาคือพลเอกประยุทธ์ ไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นนายกฯรักษาการ บอกว่าตัวเองยังเป็นนายกฯอยู่ และต้องทำงานทุกวัน และข่าวพึ่งหลุดออกมาไงครับว่า บอกลูกพรรคให้นิ่งเข้าไว้ อย่างไรเราเป็นรัฐบาลแน่ๆ ดังนั้นไอ้การเขย่าว่าจะมีดีลลับการเขย่าให้ พรรคที่เขากำลังจับมือกันอยู่กินแหนง แคลงใจขาดความเชื่อมั่นต่อกัน มันเป็นประโยชน์ โดยตรงกับพวกเขาหรือไม่