“ซินแสเป็นหนึ่ง” ชี้ฮวงจุ้ยต้องปรับตามยุคสมัยใหม่

“ซินแสเป็นหนึ่ง” หรือ “เป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร” ผอมลงจนผิดหูผิดตา และหวิดตาบอดจากภัยเงียบของร่างกายที่อ้วน มาอัปเดตถึงเรื่องสุขภาพและเรื่องราวของฮวงจุ้ยเสริมดวงแบบคนยุคใหม่ ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27

น้ำหนักลดลง 50 กิโลกรัม?

จริงๆต้องบอกว่า 50 กว่ากิโลเลยค่ะ ก่อนลด 160 กิโลกรัมขึ้นพีคสุด นอนไม่ได้นะ ต้องนั่งนอน หายใจยังมีปัญหาเลยอาจารย์

มูลเหตุที่ทำให้อาจารย์ต้องลุกขึ้นมาลดน้ำหนัก?

อาจารย์ขา ใครจะดู จริงๆต้องบอกจุดเริ่มต้น เมื่อวันนึง 160 กิโลกรัม ตื่นมา ขวามองไม่เห็น คือตื่นมาตาขวา มันเริ่มมีความเป็นสีเทา เริ่มมองไม่เห็น เราก็แบบเราเป็นอะไร หรือว่าเรานอนน้อย พักผ่อนน้อย ก็นอนอีกสักคืนนึง พรุ่งนี้คงจะหาย แล้วเราอยู่ต่างจังหวัด ไปงานอีเว้นต์ พอตื่นเช้ามามันเหมือนหนักขึ้น เลยไปหาคุณหมอในจังหวัด

ตาดับ?

ตาดับค่ะ คุณหมอก็เลยบอกว่า อาจารย์คะ วิเคราะห์ ด้วยความที่ 1.น้ำหนักเยอะ 2.ด้วยความที่มีความเสี่ยง ขอวัดความดันหน่อยได้ไหมคะ ผลปรากฎว่า เขาขอให้ไปเช็กร่างกาย แอดมิท สุดท้ายก็บินกลับไปโรงพยาบาลตรวจครั้งยิ่งใหญ่ แล้วคุณหมอก็บอกว่า อาจารย์ถ้ารักอยากมีชีวิตอยู่ ต้องออกกำลังกายเท่านั้นเอง

เป็นเบาหวานขึ้นตา?

เกือบค่ะ ทุกอย่างเกือบทุกสิ่ง แต่เดี๊ยนโชคดีมาก เขาก็เลยให้เรากลับมาดูแลตัวเอง ผลปรากฎว่า เราใช้เวลา 1,217 วันก็คือ 3 ปี ลดไป 50 กว่ากิโลกรัม ลดน้อยนะ แต่เราถือว่าเราสบายใจ ลดไปเรื่อยๆ มันเป็นอะไรที่ยั่งยืนอาจารย์ สำคัญที่สุดทุกสิ่งทุกอย่าง เริ่มต้นได้ด้วยตัวเอง ถ้าเกิดขึ้นเริ่มต้นจาก 1 ได้ 2 3 4 เดี๋ยวก็มาเอง เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ

อาจารย์จะอุปโลกตัวเองเป็นซินแสได้อย่างไร อาจารย์จบอะไรมาคะ?

จุดเริ่มต้นจริงๆของเราเป็นนักธุรกิจมาก่อน แล้วเจ๊งไม่เหลือเลย เราก็มีความรู้สึกทำไมเราเป็นแบบนี้ จนมีผู้ใหญ่หลายๆคนให้เราได้ไปเจอกับฮวงจุ้ย ทั้งต่างๆ แล้วสุดท้ายไม่ดีขึ้น เงินที่มีหน้าตักหมดกับความเชื่อหมดเลย ก็เลยกลับมาศึกษาด้วยตัวเอง นั่นคือจุดเริ่มต้น พอเราศึกษาด้วยตัวเอง เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ เราเลยใช้ปัจจุบันว่าเป็นฮวงจุ้ยนอกตำรา ในสรรพนามจากคนเรียกพอฮวงจุ้ย เลยต้องเป็นซินแซอาจารย์ เลยเป็นที่มา

อาจารย์ค่าตัวแพงมาก จองคิวทีต้องรอครึ่งปี?

ไม่จริงค่ะ อย่าฟังเรื่องราวที่ไม่ใช่มาจากปากดิฉัน คุณลองโทรมาก่อน คุณจะรู้ว่าราคาสมเหตุสมผล

บางคนเข้าใจผิด นาฬิกา ห้ามหันออกนอกบ้าน มีอะไรไหมที่คนเข้าใจผิดรุนแรง?

ต้องอธิบายแบบนี้ค่ะอาจารย์ ต้องขอบคุณรายการนี้มาก ที่ทำให้ดิฉันได้อธิบายให้คนเข้าใจ คือต้องบอกแบบนี้ ทุกอย่างผ่านกาลเวลา กาลเวลาสมัยก่อนเขาอาจจะพูดแค่นี้ แต่พอผ่านเวลามาจะเปลี่ยนแปลงจนเรื่องมันเปลี่ยนไป เอางี้ทุกสิ่งอย่างอะไรที่เป็นประโยชน์จะดีที่สุด ไม่มีอะไรทั้งหมดที่มันผิด เช่นประตูซ้อนกันทั้งหมด ประตูซ้อนกันได้ คือต้องบอกก่อนคนโบราณอาจารย์ขา ใครจะเสพเรื่องฮวงจุ้ย ต้องไปเมืองจีนก่อน เราในทุกๆปีต้องไปศึกษาอารยธรรมที่เมืองจีนก่อน บางทีบ้านเศรษฐีประตูเขาตรงกันหมดเลยนะ เราก็ถามว่าคนโบราณสมัยก่อนที่เขาห้ามประตูตรงกันหมดเพราะอะไร เขาบอกแบบนี้ สมัยก่อนเขาไม่ได้ห้าม แต่เขาแค่มีความรู้สึกว่าถ้ามีโจรขโมยยืนอยู่หน้าบ้านมันจะเห็นความเข้าออกได้ชัด เพราะประตูมันตรงกัน ความปลอดภัยไม่มี แต่ปัจจุบันมีกล้องวงจรปิด ยุคสมัยก่อน ยุคที่เขาไม่มีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาในการปรับเปลี่ยน ทุกอย่างก็จบ มันไม่มีเรื่องของความยากจน ยากจนอยู่ที่ตัวเราทำตัว ไม่มีเรื่องประตูเงินที่ไหลออก ต่อให้ประตูจะหันไปทางไหนก็ตาม การใช้เงินเก็บเงินอยู่ที่เราหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องศึกษาทำความเข้าใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *