“อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล” ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ที่ก่อนหน้านี้ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิ์ขาดจากการเมือง 10 ปี ตั้งแต่ปี 63 ได้มารับหน้าที่เป็นกระบอกเสียงช่วยมิตรรัก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดใจว่า เขาคือเจ้าของพรรคก้าวไกลตัวจริงหรือไม่ กับคำตอบความรู้สึกบทเรียนที่เคยได้รับในอดีต เรียกว่าความยุติธรรมจริงไหมพร้อมแซะแรงลุงตู่ ลุงป้อมจะก้าวผ่านความขัดแย้งได้จริงหรือ ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27
อ.ปิยบุตร มีตำแหน่งอะไร ในพรรคก้าวไกล?
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ ตัดสิทธิ์การเมืองผมครับ ทำให้ผมเป็นสมาชิกพรรคอะไรไม่ได้เลย แต่ว่าวันนี้มามีบทบาทในพรรคก้าวไกล เพราะว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคก้าวไกล ตั้งผมเป็นผู้ช่วยหาเสียง เดี๋ยวจบเลือกตั้ง ตำแหน่งนี้ก็หายไปอีกครับ ก็ลอยมาลอยไปเหมือนที่อาจารย์ว่า(หัวเราะ)
ถูกศาลตัดสิทธิ์ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง แต่มาช่วยหาเสียง?
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิ์ผมไม่ให้สมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี ตัดสิทธิ์ผมไม่ให้เป็น ส.ส. รัฐมนตรี 10 ปี ตัดสิทธิ์ผมไม่ให้เป็นสมาชิกพรรค 10 ปี แต่ผมยังมีสิทธิเลือกตั้งอยู่ ซึ่งตามระเบียบ กกต. บอกเอาไว้ว่า ผู้ช่วยหาเสียง คุณสมบัติคือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเท่านั้นเอง ดังนั้นก็มาช่วยหาเสียงได้ครับ และอีกอันนึงในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วปี 62 ก็มีคุณจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นผู้ช่วยหาเสียงมาแล้ว ครั้งนี้ก็มีเพื่อนกัน พี่เต้ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็เป็นผู้ชี่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกัน ก็คล้ายๆเคสเดียวกัน และผมทราบดีครับเราเป็นได้แค่กองเชียร์ เป็นโค้ชไม่ได้ ดังนั้นก็เชียร์อย่างเดียว สนับสนุนหาเสียงอย่างเดียว เวลาจะออกไปปราศรัยหาเสียงก็ต้องเอานโยบายพรรคมาอ่าน คือพรรคเขาคิดมาหมดแล้ว ผมก็อ่านนโยบายพรรค แล้วก็พูดตามนั้นครับ คิดเกินไม่ได้ครับ
ตอนไปช่วยพรรคหาเสียงเจออะไรแปลกๆบ้างไหมคะ?
เรียนตามตรงครับ รอบนี้น้อยครับอาจารย์ รอบปี 62 ผมเจอเยอะ ปี62 เคยโดนโวยวายใส่ เอารองเท้าเขวี้ยงใส่ก็มี แต่ตอนปี 66 แทบไม่มีเลย ผมเชื่อว่า เป็นบทสะท้อนว่าความคิดของพี่น้องประชาชนเปลี่ยนไปมากในช่วง 4 ปีนี้ แต่ที่เหมือนเดิมที่ชัดเจนคือ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานความมั่นคง ติดตามผมเหมือนเดิม
ที่ผ่านมาสิ่งที่โดน ยุติธรรมกับตนเองไหมคะ?
ผมเรียนว่ามองในมุมแบบไหน ถ้ามองในมุมฝ่ายที่ไม่ชอบผม ฝ่ายที่คิดว่าผมเป็นศัตรู เป็นภัยต่อบ้านเมืองเนี่ย ก็คงบอกว่ายุติธรรม แต่ถ้ามองในมุมภววิสัย เป็นกลางหน่อย ผมเชื่อว่าก็คงต้องตั้งคำถาม เอาแค่ง่ายๆก็คือว่าเวลาเรามอง อะไรยุติธรรม ไม่ยุติธรรม มันเหมือนเทพียุติธรรม เขาถึงเอาผ้ามาปิดตา ให้คุณลองปิดตาดูว่า คนที่เขากำลังโดนอยู่เนี่ย คุณไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร แล้วคุณลองตัดสินดูว่าอย่างนี้เป็นธรรมไหม ผมเชื่อว่าถ้ามองแบบมุมภววิสัยพวกผมก็ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมตั้งแต่เริ่มตั้งพรรค แต่ก็ไม่เป็นไร ยิ่งสังคมเป็นแบบนี้เท่าไร ยิ่งต้องสู้ เพราะถ้าไม่สู้เลย มันก็จะวนเวียนไปแบบนี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าครับ
อ.ปิยบุตร คือเจ้าของพรรคก้าวไกลหรือเปล่า ชักใยอยู่ด้านหลังคุณพิธา?
คิดว่าบทพิสูจน์ชัดเจนนะครับว่า ผมเองก่อนหน้านี้ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลหลายครั้ง แต่ถ้าผมเป็นเจ้าของจริงผมก็ต้องเข้าไปสั่งแล้ว ผมไม่ต้องมาวิจารณ์ ในที่สาธารณะ อีกข้อนึง ถ้าพี่น้องประชาชนสังเกตดู พรรคก้าวไกล เขามีภาวะผู้นำ เขามีคณะผู้นำของพวกเขาเองในการออกไปดีเบต ถกเถียง ในการออกไปปราศรัยนะครับ รอบนี้ผมก็มาช่วยในเรื่องของการหาเสียงเท่านั้น ก็ยืนยันชัดเจนพรรคก้าวไกล ก็เติบโตในแบบของเขา ผมอยากเห็นพรรคการเมืองแบบที่หลายๆประเทศเขามีกัน เป็นพรรคการเมืองที่ไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคล ณ วันนี้ คุณธนาธร ผม คุณช่อ ถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว พรรคมันถูกยุบไปแล้ว พรรคก้าวไกลเขากำลังเติบโตต่อไป เขาก็มีบุคลากรที่ดีของเขา วันหน้าถ้าเกิดอุบัติเหตุเขาโดนอีก ผมก็เชื่อว่าพรรคนี้ก็คงไปตั้งกันใหม่ และมีรุ่นใหม่ๆ เติบโตขึ้นมา นี่คือพรรคการเมืองแบบที่เราฝันอยากให้เป็น ที่หลากหลายประเทศเขามี พรรคการเมืองไม่ควรที่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่ควรที่จะมีส่งมอบเป็นมรดกตกทอด แต่มันมาจากพี่น้องประชาชนสนับสนุน วันข้างหน้าผมฝันอยากเห็นพรรคการเมืองแบบนี้ในประเทศไทยมากๆ ไม่ต้องมีอนาคตใหม่ ก้าวไกล แค่นี้หรอก พรรคอื่นถ้าเห็นว่าแบบนี้เป็นแนวทางที่ถูกต้อง ไปทำกันมา แล้วก็มาแข่งกันในแนวทางนโยบายครับ