“ภูริ – บาส” 2 หนุ่มนักเดินทางกับ โอเรียนท์ สตาร์

โอเรียนท์ สตาร์ (Orient Star) เปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ 2023 ดีไซน์โมเดิร์นผสมผสานสไตล์เรโทร ผลิตในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้แรงบันดาลใจ “3 Joys of Orient Star” คือ “ความสุขที่ได้สวมใส่” “ความสุขที่ได้ชื่นชมความงาม” และ “ความสุขแห่งการเชื่อมโยงถึงประวัติที่มีมาอย่างยาวนาน” พร้อม 2 หนุ่มนักเดินทาง ภูริ หิรัญพฤกษ์ CEO รายการท่องเที่ยว “Viewfinder Thailand” และ บาส ภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ เจ้าของเพจและ YouTube ชื่อดัง “Go Went Go” ณ 515 Victory เมื่อวันพุธที่ 5 เมษายน 2566

คุณยุทธพล ตันติวงษากิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหกรุงทองเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “จากจุดเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1951 ที่โอเรียนท์ สตาร์ ได้ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจในการสร้างสรรค์เรือนเวลาให้เป็น “ดวงดาวที่เปล่งประกาย” ซึ่งความโดดเด่นนี้จะสัมผัสได้จากงานออกแบบ ชิ้นส่วนต่าง ๆ และความใส่ใจในการผลิต ตลอดระยะเวลามากกว่า 70 ปี สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของโอเรียนท์ สตาร์ คือความมุ่งมั่นในการพัฒนานาฬิกาทุกเรือนให้เป็นไปตามปรัชญาของแบรนด์ ที่ต้องการส่งมอบความสุขให้แก่ผู้ที่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็น “ความสุขจากการสวมใส่” ช่วงเวลาที่คุณได้สวมใส่นาฬิกา คุณจะสัมผัสได้ถึงความเป็นเลิศ ของกลไกที่ผสานเข้ากับดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา และผู้ที่เป็นเจ้าของเท่านั้นที่จะรับรู้และบอกต่อได้ ความสุขที่สอง คือ “ความสุขจากการได้เห็น” มุมมองจากสายตา รับรู้ได้ถึงความสวยงามอันโดดเด่นในเชิงศิลปะการขับเคลื่อนชิ้นส่วนของกลไก ที่ทำงานอย่างเที่ยงตรงทำให้เกิดความประทับใจและความหลงใหลได้อย่างไม่รู้จบ และท้ายสุด “ความสุขจากการได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่มาอย่างยาวนาน” ซึ่งเกิดจากช่างฝีมือที่มีความชำนาญและมากไปด้วยประสบการณ์เพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพภายใต้คำว่า “Made in Japan” อย่างแท้จริง”

ภูริ กล่าวว่า “ผมจะเลือกนาฬิกาที่ใส่ไปในทุกที่ได้ อย่างเรือนนี้  Skeleton Orient Star ผมชอบมากๆ เพราะว่า หนึ่งคือ ใส่ได้ทุกโอกาส ใส่ออกงานแบบนี้ดูดีดูเท่ หรือใส่แบบลุยก็ได้ ข้อดีของเรือนนี้คือตัวเรือนบางเล็กและหน้าปัดไม่ได้ใหญ่มาก เวลาเราขี่มอเตอร์ไซด์ใส่ถุงมือ มันก็จะกระชับพอดี เราจะเลือกนาฬิกาที่ดีไซน์สวยงาม อย่างเรือนนี้เห็นหน้าปัด เห็นกลไกสวยงาม สำหรับนาฬิกาที่เป็น Japan-made แบบนี้ ไม่มีเรือนไหนที่เห็นหน้าปัดและกลไกได้แบบเรือนนี้ก็เลยชอบ ดูกลไกเพลินๆ ไขลานหนึ่งครั้งอยู่ได้ 70 ชั่วโมง ผมเพิ่งไปอัฟริกามา ไขลานปุ๊ปก็จะดูบ่อยว่ามันหยุดหรือยัง มันก็ยังไม่หยุดหลายวันมาก”

“บาส” กล่าวว่า “อย่างแรกเลยต้องดูดี อย่าง Orient Star แน่นอน เราใส่ไป Adventure ก็ได้ ใส่ไปข้างนอกก็ได้ ใส่ไปเดินทางก็ได้ มันเข้าทุกโอกาส อย่างแรกคือ เราเป็นคนชอบถ่ายรูปด้วย บางทีไม่ได้ใส่แค่เป็นเครื่องประดับแค่ใส่ไว้ใช้งาน เราใส่ถ่ายรูปออกมาแล้วดูสวยดูดีดูเท่ อย่างที่สอง ด้วยความที่เราเดินทาง มันจะต้องเป็นอุปกรณ์ที่อึด ทนต่อทุกสภาพอากาศ ผมจะเจอฝนและพายุบ่อยมากเวลาถ่ายรายการ เพราะฉะนั้นผมจะต้องเอาทุกอย่างที่สามารถกันน้ำได้ อย่างรุ่นนี้เป็น Sport Diver เป็นรุ่นที่กันน้ำได้ถึง 200 เมตร มากที่สุดสำหรับผมคือ 40 เมตร มันเหลือเฟือ ช่วงหลังชอบไปทะเลเยอะ เวลาเราไปดำน้ำลึกแบบ Scuba diving หรือ Snorkeling เช็คเวลาได้ว่าเราลงมานานหรือยัง มันทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น สะดวกมากขึ้น และก็ดูดีตอนอยู่ในน้ำด้วยครับ”

นาฬิกาโอเรียนท์ สตาร์ คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ภายใต้คอนเซ็ปต์  “The Eternal Sky” เพราะทุกการเปลี่ยนแปลงคือเสน่ห์ของกาลเวลา รูปแบบนาฬิกาจากดีไซน์ผสานกลไก ที่เปลี่ยนสุนทรียภาพของธรรมชาติสู่การสวมใส่ ทั้ง 3 รุ่น คือ “โอเรียน สตาร์” (Orient Star) เรือนเวลารุ่นใหม่ในสไตล์หน้าปัดแบบ Full Skeleton ภายใต้แนวความคิด “จักรวาลอันกว้างใหญ่” สะท้อนภาพของห้วงอวกาศและจิตวิญญาณแห่งการสำรวจ โดดเด่นจากการใช้จักรเหล็ก (Escape Wheel) ที่ผลิตจากซิลิเซียมด้วยเทคโนโลยี MEMS (Micro-Electro_Mechanical Systems) โดยชิ้นส่วนนี้ได้รับการออกแบบให้เป็นสีน้ำเงินเพื่อสื่อถึงกาแล็กซี่ทางช้างเผือกที่ตัดกับสีเทาของฐานเครื่องและส่วนอื่นๆ เปรียบเสมือนห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่

Orient Star Mechanical Moon Phase Limited Edition ภายใต้แนวคิดและสร้างสรรค์จาก “พระจันทร์ในฤดูใบไม้ร่วงที่ทะเลสาบทาซาวะ” ในจังหวัดอาคิตะ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 100 ทะเลสาบที่สวยงามและลึกที่สุดในญี่ปุ่นโดยมีระดับความลึกถึง 423 เมตร ตัวเรือนมีความโดดเด่นและน่าหลงใหลด้วยดีไซน์การไล่เฉดสีเทาบนหน้าปัดเปลือกหอยมุกที่สีของหน้าปัดนั้นจะเปลี่ยนไปตามมุมมองและแสงที่ตกกระทบเฉกเช่นเดียวกันกับสีของพื้นผิวของทะเลสาบทาซาวะที่จะเปลี่ยนไปตามภูมิอากาศ นาฬิกามีความพิเศษที่ตรงฟังก์ชั่นแสดงข้างขึ้นข้างแรมด้วยดวงจันทร์สีเงินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ตัวเรือนมีความกว้าง 41.0 มิลลิเมตรและมีความหนา 13.8 มิลลิเมตร กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโค้งเคลือบสารกันสะท้อน SAR ช่วยให้อ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน

Orient Star Diver 1964 1st Edition ผลิตเพียง 500 เรือนภายนอกประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น Olympia Calendar Diver ที่ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1964 แต่ได้รับการยกระดับมาตรฐานในการใช้ดำน้ำได้จริงที่ระดับความลึก 200 เมตรภายใต้เงื่อนไขการรับรอง ISO 6425 พร้อมให้ความเชื่อมั่นได้ถึงการทำงานของเครื่องอัตโนมัติคุณภาพสูงจากโอเรียนท์ สตาร์ ในส่วนของดีไซน์ภายนอกนั้นนาฬิกาได้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ในแบบดั้งเดิมมาอย่างเต็มเปี่ยมโดยเฉพาะการเลือกใช้หน้าปัดสีเงินตามเรือนต้นแบบและผสมผสานเข้ากับดีไซน์วินเทจ

ร่วมสัมผัส “โอเรียน สตาร์” ได้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์, พารากอน, สยามทาคาชิมาย่า และช็อปออนไลน์ทาง Shopee “Orient Official” หรือ บริษัทสหกรุงทองเทรดดิ้ง จำกัด โทร. 02-2558822-5

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *