“Ed Sheeran: The Sum of It All” ซีรีส์สารคดีสุดพิเศษ สร้างโดย Fulwell 73 Productions เจ้าของผลงาน “Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium”, “Adele: One Night Only” และ “The GRAMMY Awards” จะพาผู้ชมและแฟนๆ ติดตามชีวิตของเด็กพูดติดอ่างคนหนึ่ง ที่กลายมาเป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมถึงต้นกำเนิดเพลงฮิตติดชาร์ตมากมาย สตรีมพร้อมกันทั่วโลกในวันพุธที่ 3 พฤษภาคม บน Disney+ Hotstar
“ทุกคนในโลกรู้จักและชื่นชอบเพลงของ Ed Sheeran เนื่องจากเพลงของเขาเป็นส่วนหนึ่งให้กับหลายช่วงเวลาในชีวิตของเรา” Ben Turner และ Ben Winston จาก Fulwell 73 กล่าวเสริม “ซีรีส์ชุดนี้แสดงให้เห็นถึงผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังเพลงฮิต ทั้งนี้ยังแสดงให้เราเห็น Ed Sheeran ในมุมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หลังจากผ่านปีที่วุ่นวาย ทั้งด้านส่วนตัว และอาชีพ การได้สร้างสรรค์ซีรีส์ 4 ตอนนี้ถือเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับเรา”
“ผมค่อนข้างไม่เปิดเผยชีวิตส่วนตัวสักเท่าไหร่ สารคดีเรื่องเดียวที่ผมเคยทำคือสารคดีที่เน้นการแต่งเพลง” Ed Sheeran กล่าว “ตอนดิสนีย์ทาบทามให้ผมสร้างสารคดี 4 ตอน ผมรู้สึกว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะเปิดประตูให้ผู้คนรู้จักผมมากขึ้น ผมหวังว่าทุกคนจะสนุกกับมันนะครับ”
นับว่าเป็นครั้งแรกที่ Ed Sheeran เปิดเผยมุมมองอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา ในระหว่างที่มองหาแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เพลงของตนเองซีรีส์สารคดีนี้ติดตาม Ed Sheeran ตั้งแต่ช่วงที่เขาเรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ความยากลำบาก และการได้รับชัยชนะในช่วงที่ท้าทายที่สุดในชีวิตเขารวมถึงชีวิตส่วนตัวที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ชีวิตประจำวัน บทสัมภาษณ์กับภรรยา และคนที่เขารัก นอกจากนี้แฟน ๆ ยังจะได้รับชมการแสดงสดเพลงฮิตในสถานที่ต่าง ๆ ผู้ชมจะได้พบกับมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับเขา ความคิดของเขาต่อโลก ตัวเอง ดนตรี ตลอดจนการแสดงผลงานเพลงฮิตตลอดทศวรรษที่คนทั่วโลกชื่นชอบ ตลอดอาชีพการงานที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน Ed Sheeran ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ทั้งผู้ใหญ่ ครอบครัว และเด็ก ๆ ทั่วโลกด้วยเพลงติดชาร์ต และการเล่าเรื่องผ่านผลงานเพลง ในแต่ละตอนของซีรีส์สารคดีนี้ Ed Sheeran จะบอกเล่าเรื่องราวผ่านธีมและอารมณ์ที่คนส่วนใหญ่ประสบ เขาถ่ายทอดความคิดที่ลึกซึ้งขึ้น ในขณะที่กำลังทบทวนชีวิต พร้อมทั้งสะท้อนถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งมีอิทธิพลต่อตัวเขาและเพลงใหม่ของเขาอย่างไร
ซีรีส์สารคดี 4 ตอนนี้ ประกอบไปด้วย
“ความรัก”: เขาเล่าย้อนกลับไปว่าเขาได้วางแผนความสำเร็จที่ดูจะเป็นไปไม่ได้นี้อย่างไร ในช่วงเริ่มแรกที่อุตสาหกรรมดนตรีมองข้ามความสามารถของเขา ไม่หยุดนิ่งทำตามความฝัน จนกระทั่งได้พบกับ Jamal Edwards นักธุรกิจด้านสื่อในปี 2010 พวกเขาร่วมกันใช้อินเทอร์เน็ตที่กำลังเติบโตเป็นเครื่องมือในการเข้าหาผู้ฟัง “The A Team” เพลงที่แม้จะโด่งดังสุดขีดในอเมริกา แต่สำหรับ Ed Sheeran ยังมีบางสิ่งที่ยังขาดหายไป นอกจากนี้เขายังได้แบ่งปันเรื่องราวเบื้องหลังเพลงรักอันโด่งดัง “Perfect” และเรื่องราวชีวิตสุดโรแมนติคของเพื่อนเก่าสมัยเรียนของเขาที่ชื่อว่า Cherry ที่ตอนนี้กลายมาเป็นภรรยาสุดที่รักนั่นเอง
“ความสูญเสีย”: พ่อแม่ของเขาและ Cherry ร่วมกันย้อนวันวานผ่านรูปถ่ายเก่า ๆ ของเขา พร้อมทั้งบอกถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจกลับมาตั้งรกรากที่บ้านเกิดของตัวเอง ในตอนนี้ แฟน ๆ จะได้รับชมฟุตเทจจากคอนเสิร์ต Divide Tour เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิทที่เป็นเสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้รับข่าวร้ายว่า Jamal Edwards เพื่อนรักของเขาเสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน Ed Sheeran เลยใช้การทำสมาธิและดนตรีเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจ ไม่เพียงเท่านี้ แฟน ๆ ยังจะได้รับชมเทปพิเศษของทัวร์ที่ Wembley Stadium ในลอนดอน ที่ได้ Stormzy มาร่วมเวที พร้อมส่งพลังผ่านการแสดงที่สุดเซอร์ไพรส์ ก่อนที่จะไปเล่นยังเมืองเล็กๆ ในบ้านเกิดของเขาต่อไปอีกด้วย พร้อมกับร้องเพลง “Thinking Out Loud”
“ความตั้งใจ”: Ed Sheeran จะแสดงความสามารถด้านการแต่งเพลงของเขาให้แฟน ๆ ได้เห็นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลง “Bad Habits” ที่เล่าผ่านฟุตเทจสุดพิเศษ และเพลง “Eyes Closed” ที่เล่าถึงที่มาของเพลงผ่านหัวใจที่ลึกซึ้งในปี 2018 หลังจากปีที่แสนวุ่นวาย เขากลับมาถ่ายทอดอารมณ์และสร้างสรรค์ผลงานอีกครั้งในอัลบัมใหม่ “Subtract” ด้วยความเสียใจจากการจากไปของ Jamal เขาโฟกัสไปที่การทำเพลงอย่างต่อเนื่อง ถ่ายทำมิวสิควิดีโอ 14 ตัว ขึ้นแสดงพร้อมกับ Eminem ตามความฝันในวัยเด็ก บนเวที Rock N Roll Hall of Fame
“ความสมดุล”: ในตอนสุดท้าย Ed Sheeran เดินทางไปอเมริกาเพื่อโปรโมตทัวร์ของเขา ทั้ง Ed และ Cherry บอกเล่าถึงการรักษาความสมดุลระหว่างชีวิตครอบครัวและงานเมื่อต้องอยู่ห่างไกลกัน เธอเล่าว่าเธอเห็นการเปลี่ยนแปลงของ Ed ในระยะหลายปีที่ผ่านมา Ed ยังได้พบกับเพื่อนสนิท Stormzy ศิลปินชาวอังกฤษ เพื่อบอกเล่าถึงความกังวลในการการปล่อยวางเรื่องราวส่วนตัวของเขาเอง ที่เขาสื่อสารผ่านอัลบัม “Subtract” นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึง Jamal เพื่อนรักของเขา Ed ได้มอบเพลง “F64” ซึ่งเกี่ยวกับมิตรภาพของพวกเขา ซึ่งแสดงสดที่ Stamford Bridge สนามฟุตบอล บ้านของสโมสรเชลซีอีกด้วย
ฟังซิงเกิล “Eyes Closed” ในวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้ ก่อนอัลบัมชุดที่ 6 “ – ” (อ่านว่า “Subtract”) ในวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม ผ่านทาง Atlantic ในสหรัฐอเมริกา Atlantic/Asylum Records ในสหราชอาณาจักร และ Atlantic/Warner Music ทั่วโลก
ติดตามได้ทาง Twitter: @DisneyPlusTH, Facebook: @DisneyPlusHotstarTH, Instagram: @DisneyPlusHotstarTH, TikTok: @DisneyPlusTH