นางเอกตัวท็อป “เบลล่า-ราณี แคมเปน” เปิดใจถึงชีวิตการทำงานที่ต้องเป๊ะใส่ใจทุกรายละเอียด เพราะส่วนหนึ่งเป็นคนคิดเยอะและเคยเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเองมาก่อน ณ ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องงานพร้อมเล่าถึงเรื่องความสุขและความทุกข์ที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาในรายการ Woody FM ทาง Podcast: WOODY FM, Facebook: Woody, YouTube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.
อยากรู้ว่าร่างที่บ้านเมื่ออยู่คนเดียวทำอะไร
เบลล่า: เอาจริงๆช่วงนั้นมันมีน้อยมากไม่ค่อยได้อยู่กับตัวเองหรืออะไรสักเท่าไหร่ค่ะแต่ถ้าวันที่ได้อยู่ก็จะเป็นคนธรรมดาขี้เกียจๆคนหนึ่งการที่อยู่บ้านคือช่วงเวลาพักผ่อนเราจะชาร์ตแบตชาร์ตพลังให้เต็มที่อยากทำอะไรก็ทำจะนอนตื่นกี่โมงดูทีวีโน้นนี่นั่นกินอะไรที่ตัวเองอยากกิน
เป็นคนที่ต้องเป๊ะไหมกับชีวิตในการทำงาน
เบลล่า: ถ้าทำงานเป๊ะไม่เชิงเป๊ะหรอกแต่ว่าเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจรายละเอียดเหมือนเป็นคนช่างสังเกตุมั้งคะอย่างเรานั่งเห็นเขากำลังซ้อมกันอยู่เราจะดูว่าเขาทำอะไรกันบางทีหูก็ดันไปได้ยินลูกค้าพูดว่าอยากได้อะไรประมาณนี้พอเราได้ยินก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไรพอเราเดินเข้าเซ็ทไปก็ตามนั้น
ในกองถ่ายจะถามผู้กำกับไหมว่าอยากได้อะไรยังไง
เบลล่า: คือครึ่งๆค่ะส่วนหนึ่งก็จะดีไซน์เองส่วนหนึ่งก็จะคุยถ้าเรามีคำถามที่เราอ่านบทมาว่าตรงนี้มันยังไงเราก็จะไปคุยให้เคลียร์เลยบางทีผู้กำกับไม่เห็นด้วยกับเราก็จะเจอกันคนละครึ่งทางเพราะถือว่าเขามองเห็นภาพรวมได้มากกว่าส่วนเรารับผิดชอบตัวละครที่เราเล่น
เบลล่า ราณี ในวันนี้คือชีวิตในฝันไหม
เบลล่า: มันไม่ใช่ฝันของตอนเด็กค่ะฝันในตอนเด็กไม่ได้มีอะไรที่ชัดเจนมากอยากทำงานที่มันได้เดินทางท่องเที่ยวได้เจอคนเยอะๆได้ทำงานที่ไม่น่าเบื่ออาชีพนี้ก็ตอบโจทย์ตรงนั้นแต่พอได้เข้ามาการมีคนรู้จักหรือมีชื่อเสียงมากขนาดนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เราคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในชีวิตมีแอบคิดแต่เป็นฝันที่ไม่กล้าฝันตอนที่เข้ามาแรกๆว่ามันจะมีไหมวันนั้นวันที่เป็นของเราแต่พอมาถึงปุ๊บ Oh my god มันมากับความรับผิดชอบที่เราไม่คิดเลยว่าจะขนาดนี้การเป็นคนของประชาชนคนสาธารณะเราจะต้องเป็นตัวของตัวเองที่มีความรอบคอบมากยิ่งขึ้นคิดรอบด้านมากขึ้นอยากจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกคนและเรื่องการทำงานของตัวเองด้วยให้ดีที่สุด
สิ่งที่หนักที่สุดของการเป็นเบลล่า ราณี
เบลล่า: เมื่อก่อนจะเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองแถมยังเป็นคนที่คิดเยอะจะดูเหมือนเป็นข้อเสียแต่ว่าในความคิดเยอะนั่นมันคือข้อดีที่ทำให้เราละเอียดมากขึ้นแล้วทีนี้เราจะทำยังไงที่จะทะลายความไม่มั่นใจคือมันคิดเยอะไปหมดดีที่สุดหรือยังดีแล้วใช่ไหมเอาในความคิดเยอะของเรามากลั่นกรองว่าเอาเท่านี้ก็พอสุดท้ายมันก็จะกลมกล่อมออกมาเป็นเราไม่ต้องเพอร์เฟคไปซะทุกอย่างการหลุดๆหรือปล่อยให้มันเกิดขึ้นในโมเมนต์มันก็ดี
เพื่อนๆบอกว่าเบลล่าเป็นคนแบบไหน
เบลล่า: ใช่เพื่อนก็บอกว่าเป็นคนรั่วๆไม่ได้แบบอะไรมากมายเป็นคนชอบยิงมุกชอบกวน
ถ่ายรูปในโซเชียลจะเยอะๆหรือช็อตเดียวจบ
เบลล่า: ประมาณสัก 10 ค่ะจะเป็นคนไม่ได้ถ่ายเยอะมากเพราะว่าขี้เกียจไปเลือกเดี๋ยวเลือกไม่ถูกเอาประมาณหนึ่งถ้าได้แล้วก็จะพอก็มีใช้แอพพลิเคชั่นบ้างคะบางทีมุมกล้องที่มันเสยมากขาเราก็เหลืออยู่แค่นี้บางทีแค่ทำในโฟโต้ยืดภาพมันก็ดูสมส่วนขึ้นแล้วบางทีแสงไม่ได้มันเกินจริงบางทีรูปที่ถ่ายออกมาถึงขั้นต้องขอกระจกมาดูมันไม่ได้ขนาดนั้น (หัวเราะ) แต่มันยังต้องเป็นเราอยู่ค่ะ
ใน 24 ชั่วโมง นอกจากงานแสดงแล้วทุ่มเวลาให้กับอะไร
เบลล่า: นอนให้ได้มากที่สุดค่ะแล้วก็สุขภาพต้องคู่กันเลยเพราะว่างานแทบจะ100%ของชีวิตเราถ้าเราไม่มีสุขภาพมาตีคู่กันมันไปต่อไม่ได้เลยช่วงนี้งานก็คือเดือนหนึ่งไม่มีวันหยุดแต่จะเป็นสิ่งที่ปรับแล้วในปีนี้จะปรับตารางให้มีเวลาคุยกับตัวเองให้มีเวลาเช็กตัวเองว่าช่วงนี้เราแฮปปี้กับอะไรเราอยากทำอะไรอย่างน้อยก็นอนให้แบบว่าวันรุ่งขึ้นไม่ต้องรีบไปไหนบำบัดให้กับตัวเองบ้างมีเวลาให้กับงานอดิเรกเล็กๆน้อยๆ
สุขที่สุดในชีวิตของเบลล่า ราณี
เบลล่า: เบลว่ามันคือการให้การที่ได้ช่วยเหลือผู้คนหรือว่าช่วยสัตว์โลกอะไรแบบนี้มันเป็นเป้าหมายในชีวิตของเบลอยู่แล้วอยากทำตรงนี้รู้สึกว่ามีคุณค่าในการมีชีวิตอยู่ของเบลได้มาจากที่บ้านด้วยค่ะคุณพ่อเขาชอบช่วยเหลือคนมากช่วยทุนการศึกษาเด็กคือช่วยตรงไหนได้เขาจะช่วยเลยเป็นความตั้งใจของเราว่าถ้าเรามีเราจะแบ่งปันมันออกไป
โมเมนต์ที่เศร้าที่สุดนึกถึงอะไร
เบลล่า: เราเป็นคนไม่ค่อยเก็บอะไรเท่าไหร่แต่ก็จะมีตอนคุณพ่อเสียมันไม่มีความเศร้าไหนที่มากไปกว่าการสูญเสียคนในครอบครัวแต่เบลก็เข้าใจเรื่องของธรรมชาติ
คุณเจอกับอะไรและปรับตัวยังไง
เบลล่า: ในตอนนั้นเรียนโทแล้วก็ถ่ายละคร2เรื่องหนึ่งในนั้นคือบุพเพสันนิวาสก็หนักแต่ว่าเหมือนเราโฟกัสที่งานแล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผ่านมาที่เราทำมันทั้งหมดเราดูแลเขาแบบดีที่สุดคือเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนต้องเจอเกิดแก่เจ็บตายเราพยายามธรรมะหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เราไปต่อได้แล้วเราก็ยังจะทำงานให้ออกมาดีที่สุดอยากจะให้เขาภูมิใจว่าถ้าเขามองลงมาว่าเราโอเคอยู่ได้ก็จับมือแน่นๆกับคุณแม่ค่ะวันไหนที่คุณแม่แย่เราก็จะเป็นเสาที่แบบแข็งแกร่งเป็นลูกคนเดียวค่ะคุณพ่อคุณแม่สอนมาตั้งแต่เด็กว่าเราจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเองเพราะว่าพ่อแม่ไม่รู้ว่าจะอยู่กับเราไปได้อีกนานเท่าไหร่
คุณสามารถจัดการและปล่อยวางได้ง่ายขึ้น
เบลล่า: ก็ใช่ค่ะวางได้ง่ายขึ้นมันก็ไม่ได้ทำได้ทันทีหรอกแต่ว่าเรามีเป้าหมายในชีวิตของเราอะไรที่มันเป็นพลังงานลบจะไม่เก็บไว้กับตัวหรือใครที่รู้สึกไม่โอเคเราจะเอาตัวเองออกมา
เวลาผายลมเราต้องค่อยๆไปในห้องน้ำหรือในที่สาธารณะ
เบลล่า: (หัวเราะ) คือถ้าเรามั่นใจแล้วว่ามันจะไม่มีกลิ่นเราก็สามารถผายได้เบาๆในที่สาธารณะค่ะ
ดูแลชีวิตตัวเองยังไงบ้าง
เบลล่า: ทุกอย่างที่นึกออกเลยค่ะเพราะว่าทำงานเยอะก็ต้องดูแลสุขภาพไม่งั้นเราไปต่อไม่ได้เพราะงานเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเราไปแล้ว
ในยุคนี้หลายคนบอกจะไม่แต่งงานของคุณเป็นแบบไหน
เบลล่า: ยังไงก็ได้ไม่จำเป็นที่จะต้องแต่งก็ได้ค่ะคือถ้าแต่งต้องเป็นอะไรที่เรียบง่ายต้องเป็นใครที่สบายใจ
งานกับความรักอะไรมาก่อน
เบลล่า: ตอนนี้ก็งานค่ะ (หัวเราะ) มันเห็นกันอยู่แล้วแต่ถ้าในวันหนึ่งที่มีความรักแล้วก็คงต้องบาลานซ์
ติดตามและอัปเดตข่าวสารได้ทาง Facebook: Woody, Instagram: Woodytalk, YouTube: Woody, Twitter: @Woodytalk, TikTok: woodywoody, LINE: @woodytalk