คาร์กิลล์ สร้างความยั่งยืนทางอาหารให้เยาวชนไทย

คาร์กิลล์ (Cargill) บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านอาหารและเกษตรกรรม สานต่อ ‘โครงการเกษตรอาหารกลางวัน’ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนด้วยอาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโภชนาการผ่านการจัดอบรมเพื่อมอบองค์ความรู้และความเข้าใจในการทำการเกษตรให้กับนักเรียนใน จังหวัดสระบุรีและจังหวัดนครราชสีมา กว่า 6,000 คน

คาร์กิลล์ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยบูรพาวิทยาเขตสระแก้ว ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ให้กับเยาวชนอายุตั้งแต่ 7-14 ปี พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มคนรุ่นใหม่หันมาสนใจประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม นอกจากนี้โครงการเกษตรอาหารกลางวันยังส่งเสริมความตระหนักรู้เกี่ยวกับอาหารและโภชนาการ พร้อมผลักดันให้นำผลผลิตทางการเกษตรจากโครงการมาใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารกลางวันภายในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะสมกับการเจริญเติบโตตามวัย

โครงการเกษตรอาหารกลางวันยังช่วยเพิ่มโอกาสให้นักเรียนสามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ว่าจะเป็นผักที่ปลูกบนดินผักไฮโดรโปนิกส์ ไข่โอเมก้า3 ปลานิล ปลาดุก รวมถึงเห็ดนางฟ้าซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของนักเรียน ในปีที่ผ่านมาโครงการนี้สามารถสร้างผลผลิตทางการเกษตรรวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาทซึ่งได้นำไปใช้เพื่อการบริโภคภายในโรงเรียนและการวางจำหน่ายในตลาดท้องถิ่น ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 โครงการนี้ได้ดำเนินการในโรงเรียนไปแล้วกว่า 40 แห่ง โดยมีนักเรียนที่ได้รับผลประโยชน์กว่า 6,000 คน และยังขยายผลกระทบเชิงบวกไปยังชุมชนและพื้นที่โดยรอบอีกด้วย

นอกจากนี้ คาร์กิลล์ยังดำเนินโครงการ ‘น้องอิ่มท้อง พี่อิ่มใจ’ จัดหาผลิตภัณฑ์ไก่สดและไก่ปรุงสุกส่งมอบให้กับโรงเรียน 8 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา และอีก 9 แห่งในจังหวัดสระบุรีทุกสัปดาห์ โดยตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ตั้งแต่ดำเนินโครงการทั้งสองโครงการนี้ คาร์กิลล์ได้สนับสนุนมื้ออาหารให้กับโรงเรียนในประเทศไทยไปแล้วกว่า 5 ล้านมื้อ

ล่าสุด คาร์กิลล์ได้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการเกษตรอาหารกลางวันอีก 2 ปี โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการพัฒนา Agriculture School จำนวน 4 โรงเรียน เพื่อนำร่องให้เป็นโรงเรียนต้นแบบของการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมสมัยใหม่โดยมุ่งถ่ายทอดความรู้และทักษะด้านการเกษตรแก่บุคลากรครูและนักเรียน พร้อมนำเทคโนโลยีทางการเกษตรมาปรับใช้และจัดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนในโครงการร่วมปลูกผักและแลกเปลี่ยนความรู้กันโครงการนี้ได้ส่งเสริมให้โรงเรียนที่เข้าร่วมสามารถใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสร้างโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าผ่านการลงมือปฏิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของภาคเกษตรกรรมในปัจจุบันในขณะเดียวกันยังสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ก้าวสู่การเป็นเกษตรกร ชี้แนะแนวทางการศึกษาต่อและโอกาสในสายอาชีพเกษตรกรรมพร้อมช่วยยกระดับโรงเรียนให้กลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้สำหรับการทำเกษตรสมัยใหม่อีกด้วย

นายวัชรพล ประสพเกียรติโภคา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคาร์กิลล์โปรตีน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้แทนคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัทคาร์กิลล์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ความไม่มั่นคงทางอาหารยังคงเป็นปัญหาที่ควรให้ความสำคัญโดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คาร์กิลล์ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยบูรพาวิทยาเขตสระแก้ว เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้เพราะเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ประชากรทั่วโลกควรได้รับสิทธิในการเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างทั่วถึงและปลอดภัย เราจึงให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตในทุกมิติเพื่อให้มั่นใจว่า ตลอดเส้นทางจากฟาร์มสู่เมนูอาหารจานโปรดจะเป็นมื้อที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัยต่อการบริโภคคาร์กิลล์ไม่เพียงแต่สานต่อโครงการเกษตรอาหารกลางวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่คาร์กิลล์ยังเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่ออนาคตสู่การยกระดับการทำเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก”

ติดตามได้ที่ https://www.cargill.com/sustainability/2024-impact-report

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *