สุนารี ราชสีมา และ ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ สองราชินีลูกทุ่งตัวแม่ที่มีความสัมพันธ์กว่า 20 ปี เล่าเรื่องราวสนุกๆ และแฉวีรกรรมเด็ดๆ ทั้งกินจุ ขี้ลืม แถมยังเคลียร์ดราม่าเรื่อง “สุนารี” หยิ่งอีกด้วย และน้องสาวของ “ฮาย” โดนโกงเงินเกือบ 1.5 ล้านบาท ในรายการ คุยแซ่บ Show
สนิทกัน 20 ปีจริงมั๊ย?
สุนารี: “ใช่ค่ะ เราเป็นเพื่อนซี้กันมา 20 ปีแล้ว รู้จักกันมานานในวงการนี้ โดยที่ฮายเป็นรุ่นน้องเข้ามาในปี 32 ฉันรู้จักพี่เขาบ้างแล้ว”
ฮาย: “จริงๆ แล้วไม่ได้รู้จักกันมากนักจนกระทั่งพี่เขาดัง เพราะตอนที่เราเข้าวงการ พี่สุเขากำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และเราเอาเพลงของพี่เขาไปประกวดร้องเพลง”
เมื่อได้เข้าวงการบันเทิง ทั้งคู่กลับสวนทางกันอย่างน่าตื่นเต้น
ฮาย: “ตอนนั้นเราไปแอบดูสุนารีเล่นที่เวที ตอนที่เรายังไม่ดัง ขายของหลังเวลา พอเสร็จร้านก็รีบเก็บของ เขาบอกว่าสุนารีขึ้นเล่น เพราะเวลาเราหมดแล้ว ในขณะที่เราแอบดูจากระยะประมาณ 100 เมตร ไม่กล้าเข้าใกล้เลย มันตื่นเต้นมากที่ได้เห็นเขาเป็นครั้งที่สอง ตอนนั้นรู้สึกว่าเขามีชื่อเสียงมาก เขาแตะบ่าฉัน มันทำให้เรารู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก เห็นเขาสวยเหมือนนางพญา มีผู้ชายคอยช่วยจับมือขึ้นเวที เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ชีวิตเพอร์เฟ็กต์มาก คิดถึงเขาตลอดจนสุดท้ายได้มาอยู่ในวงการเดียวกัน”
สุนารี: ช่วงหลังเราได้เล่นหนังด้วยกัน เป็นหนังลูกทุ่ง FMที่นักร้องลูกทุ่งหลายคนมาร่วมเล่น เรารู้สึกดีใจมากที่ได้ทำงานร่วมกันในแบบนี้”
“แม่สุดัง” ทำให้เกิดการแข่งขันอยู่บ้าง
ฮาย: ยอมรับว่า “มีบ้างค่ะ มันเป็นธรรมดาในวงการ ยืนยันว่าความเขม่นกันนั้นไม่ใช่ศิลปิน แต่เป็นเรื่องของนายทุนของแต่ละค่าย “ค่ายนี้ก็จะปล่อยศิลปินในแนวของตัวเองออกมา ส่วนค่ายอื่นๆ ก็จะหาวิธีในการแข่งขัน”
สุนารี: “นักร้องลูกทุ่งในยุคนั้น พอเริ่มดัง เวลาที่ต้องเดินทางหรือต้องใช้เงินมันไม่มีเวลาให้พักผ่อนเลย ตื่นมาก็ต้องออกเดินทาง ซึ่งสมัยก่อนการเดินทางส่วนใหญ่ต้องนั่งรถและกินอาหารในรถ” นอกจากนี้ เธอยังพูดถึงกลยุทธ์การโปรโมตเพลงว่า “การแจกแผ่นเสียงและโปรโมตวงต่างๆ เป็นหน้าที่ของนายทุน ซึ่งนายทุนมักจะมีการบลั๊ฟกันเอง ทำให้เกิดความตึงเครียดและการแข่งขัน ในช่วงหน้าฝนที่เป็นฤดูกาลของผลไม้ ศิลปินลูกทุ่งจะเดินสายไปงานในภาคตะวันออก แต่บางทีนายทุนอาจจะทำอะไรไม่เป็นธรรม เช่น การเก็บป้ายของคณะอื่น”
ความสนุกสนานระหว่างสุนารีและฮาย
ฮาย: “มันก็เลยเป็นที่มาว่าแม่สุชอบแกล้งแม่ฮาย?”
สุนารี: ทำหน้างงแล้วถามกลับ “แม่เคยแกล้งหนูเหรอ เขาจะกลัว ไม่ค่อยกล้า แต่พี่จะกล้า อย่างเวลาขึ้นคอนเสิร์ต ฮายดูเซ็กซี่ๆ แต่ไม่ได้ทะลึ่ง หมายถึงบนเวทีนะ หลังเวทีอีกเรื่องหนึ่ง (หัวเราะ)”
ได้ข่าวมาว่าพี่ฮายชอบแอบตุนของกินระหว่างทำงาน
ฮาย: มันเป็นธรรมชาติเลย เพราะบางครั้งเราจะเริ่มงานตั้งแต่เที่ยง กว่าจะเสร็จก็ดึก”
สุนารี: เวลาไปรายการใต้โต๊ะฮายจะมีของกินเต็มไปหมด แล้วบางทีก็เตะหกเลอะเทอะไปหมด จนสุดท้ายรายการต้องทำโต๊ะใหม่ให้เห็นข้างล่างทั้งหมด เพื่อจะได้ไม่เอาอะไรมาวาง!”
แม่ฮาย เวลาพูดกับใครก็มักจะพูดไม่รู้เรื่อง
สุนารี: “นางลดน้ำหนักอยู่ วันนั้นเดินตามเขาแล้วเห็นเขาเดินเซจะล้ม”
ฮาย: ตอนนั้นฉันคุมอาหารลงไป 8 กิโล ไม่กินแป้ง กินแค่ไข่กับนม แต่พอเวลาผ่านไปเริ่มปวดเข่าเหมือนหักดิบไป”
สุนารี: “ตอนเขาไปนั่งเป็นคอมเมนต์ก็พูดวนไปวนมา และพูดช้ามาก”
ฮาย: พิธีกรก็โยนคำถามมา แล้วเราก็ต้องทวนคำพูด เพราะขาดแป้งน้ำตาลทำให้รู้สึกวิงเวียนและพูดไม่รู้เรื่อง!”
แต่มีคนขี้ลืมจนไม่คิดจะมีคนลืมได้แบบนี้?
ฮาย: เจ๊ขี้ลืม บางวันเขานั่งคอมเมนต์ทั้งวัน แล้วบอกว่าลืมใส่กางเกงในออกมา ก็อยากจะถามคนข้างๆ ได้กลิ่นบ้างมั้ย”
สุนารี: คือหลังๆ อายุมากขึ้น ยกทรงก็ไม่อยากใส่ ถ้าใส่ก็อยากใส่ยืดๆ กางเกงในก็เหมือนกันจะใส่รัดๆ เหมือนสาวๆ ก็ไม่ได้ ต้องเอาตัวใหม่ทิ้งใส่แต่ตัวเก่า คือเจ๊เป็นคนทำอะไรหลายๆ อย่างกับข้าวนั่นนี่ บางทีใส่ชุดสบายๆ มาทำอาหารใส่แล้วก็ออกจากบ้านมาเลย ก็เคยเป็นครั้ง 2 ครั้งคือกว่าจะรู้ก็ตอนเปลี่ยนชุดเข้ารายการ ไม่รู้โหวงๆ เพราะชุดมันฟิตเป๊ะ”
เคยได้ยินมาว่าพี่สุเป็นคนนิ่งๆ จนคนเข้าใจว่าหยิ่ง?
ฮาย: “เขามีสไตล์เป็นของตัวเองเลย เมื่อก่อนเราไม่เคยทำงานด้วยกัน มันทำให้เรารู้สึกเกร็งๆ และคิดว่าเขาดูหยิ่งมาก แต่เมื่อได้ทำงานร่วมกันกลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่เลย หลายคนมักจะบอกเราว่าเขาหน้านิ่งและดูหยิ่ง แต่จริงๆ แล้วอย่าเข้าใจผิด เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ”
ฮายรีวิวสุนารีในมุมที่ไม่เคยเห็น
ฮาย: “เอาเป็นว่าคำที่เราไม่กล้าพูด เขากล้าพูดเสมอ อย่างเจ๊เขาเป็นวัยทองมาหลายปีแล้ว จะรู้สึกยังไงก็พูดออกมาตรงๆ และบางคำเขาก็พูดด้วยความจริงใจสุดๆ ทำให้เราอยู่กับเขาแล้วไม่รู้สึกเกร็งเลย มันสนุกมาก”
สุนารี: “ถ้าคนไม่อยู่กับเราจริงๆ จะไม่รู้เลยว่าเราเป็นยังไง ถ้าเราไม่สนิทกับใคร เราก็จะนิ่งๆ ไปไหนมาไหนก็จะไปคนเดียว ยกเว้นเวลาทำงานที่ได้เจอน้องๆ”
ทำไมสุนารีไม่เล่าเรื่องทุกข์ให้ฟัง
สุนารี: แม่จะเป็นแบบนี้ค่ะ ถ้ามีความสุขจะชอบแชร์ให้คนรอบข้างรับรู้ แต่เมื่อมีความทุกข์ เราคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว เลยเลือกที่จะเก็บไว้กับตัวเอง พยายามทำให้ตัวเองเจ็บน้อยที่สุด มันก็เหมือนเป็นการสะสมประสบการณ์ที่ทำให้เราเติบโต สุขและทุกข์เป็นเรื่องที่อยู่คู่กันเสมอ”
ระหว่างแม่สุกับแม่ฮายให้กำลังใจกันยังไง
ฮาย: เวลาเราเจอกันถ้าเขาอยากคุยกับเรา ก็จะให้กำลังใจเขาเชื่อว่าเขากำลังจัดการปัญหาของเขาอยู่ก็ได้ ต้องให้กำลังใจเขา ต้องให้เวลา บางแว้บมีน้อยใจที่เขาไม่พูดกับเรา แต่ถึงเวลาเดี๋ยวเขาพูดเอง มีวันนึงเขามาพูดแล้วร้องไห้กับเรากอดให้กำลังใจ เขากำลังจัดการเรื่องของตัวเองอยู่ ผ่านไปสองเดือนก็ปกติ ผู้หญิงคนนี้เก่งมาก 5 4 3 2 เขาก็ทำงานได้ปกติเหมือนเดิม มีวันหนึ่งเขามาพูดและร้องไห้กับเรา เราก็กอดเขาและให้กำลังใจ เพราะเขากำลังจัดการเรื่องของตัวเองอยู่ หลังจากนั้นประมาณสองเดือน ทุกอย่างกลับมาปกติ ผู้หญิงคนนี้เก่งมาก เขาสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ”
มุมมองด้านความรักของแม่เปลี่ยนไปมั้ย?
สุนารี: ไม่มีใครเก่งหรอกเรื่องความรัก แค่เรารักตัวเอง ความรักก็ดีเสมอ เวลามีความรักก็จะเหมือนเรามีพลังพิเศษ มันจะดูแลตัวเอง เปล่งประกายออกมาทางสายตา”
อัพเดตเรื่องบ้านหน่อย เห็นว่าประกาศขายบ้านแต่คนมาจีบ?
สุนารี: ประกาศขายบ้านก็โทรคุยไปเรื่องบ้าน พอแลกไลน์ก็ทักมาคุยส่งประวัติตัวเองมา ส่วนมากเป็นวัยเกษียณ เราไม่ได้เลือกวัยหรอก แค่เป็นที่เรารักก็ได้”
ทำไมถึงขายบ้าน ร้อนเงินใช่มั้ย?
สุนารี: จริงๆ บ้านเป็นเงินเก็บของเรา พอแม่ไม่อยู่ก็รับปากกับแม่ไว้ว่าจะไปอยู่โคราช ก็จะขาย 2 หลังแหละ แต่ตอนนี้ปล่อยไปหลังเดียวก่อนก็จะไปๆ มาๆ โคราชตามที่บอกแม่ไว้ ก็โทรมาได้ตามเบอร์
ตอนมีความรักจะดูแลตัวเอง พอไม่มีความรัก?
สุนารี: “คือเราก็ต้องดูแลตัวเอง เพราะเรายังทำงานในวงการ”
ใครดูแลตัวเองดีกว่ากัน?
ฮาย: “เจ๊ดูแลตัวเองดีมาก ถ้าเขาปล่อยตัวคือความเป็นธรรมชาติสูงมาก แต่งตัวสบายๆ รองเท้าแตะ
เปิดใจเรื่องน้องสาวถูกโกงการลงทุน
ฮาย: “อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติมากๆ น้องสาวของฉันอยากหารายได้พิเศษ เขาได้รับโทรศัพท์จากคนที่บอกว่าเป็นลูกค้าชั้นดีว่าจะส่งของมาให้ แล้วถ้าอยากได้ก็จะส่งลิงค์ให้กดไลก์และแชร์ คลิกละ 25 บาท วันนั้นเขาก็ทำได้ 500 บาท หลังจากนั้นเขาบอกให้อัพเลเวล ซึ่งต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อที่จะได้เงินคืน กลายเป็นว่าเสียเงินไปเยอะ คล้ายกับการเล่นแชร์ เขาเคยโอนกลับมาให้ 70,000 บาท และพอได้รับเงินก็เล่นต่อ โดยเพิ่มเงินเรื่อยๆ จนยอดรวมสุดท้ายอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่โดน พอออกข่าวกลับพบว่ามีผู้เสียหายเยอะมาก ฉันยอมรับว่าโกรธน้องสาว เพราะเขายืมเงินไปทั่ว คิดว่าเขาอาจจะเล่นการพนัน เพราะยืมไปทั่วแล้วก็มีคนโทรมาบอกว่าเขาไปกู้นอกระบบมา 450,000 บาท และไม่คืนตามกำหนด จนถูกกักตัวไว้แล้วโทรมาหาเรา ตอนนี้เรื่องถึงตำรวจแล้ว และเรากำลังดูเส้นทางการเงิน มีผู้เสียหายอีกคนที่เล่นไปถึง 50 ล้าน น้องเรากลายเป็นผู้เสียหายเล็กน้อยในเรื่องนี้”
เป็นเพื่อนกันมา 20 ปี มีความในใจจะบอกอะไรกันมั้ย?
ฮาย: จริงๆ พี่สาวคนนี้อย่าถามว่ารักเมื่อไหร่ มันทำงานอยู่ด้วยกันทุกวันมันซึมซับกันไปหมดแล้ว คือเราห่วง เรื่องขับรถ ง่วงก็จอดนอน ผู้หญิงคนนี้ดื้อที่สุดชอบอยู่คนเดียว บางทีเขาจะกลับโคราชเราอยากโทรไปกลัวเขาไม่สะดวกห่วงจริงๆ นะ”
สุนารี: เหมือนกันก็เป็นห่วงตลอด และก็รักคุณแม่เหมือนแม่คนนึง ดูแลคุณแม่ดีๆ”
