ไอซ์-สารวัตร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายข่าว และผู้ประกาศข่าวรายการ ลุยชนข่าว พร้อมโฟนอินนักข่าวสาว หยก เพ็ญสิริ มาร่วมพูดคุยเบื้องหลังการสืบเสาะเบาะแสของคดีแบบเคลียร์ชัดและลึกในทุกขั้นตอนพร้อมเปิดความรู้สึกของผู้การแต้ม พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพเกี่ยวกับความเห็นที่ว่านักข่าวทำเกินหน้าที่จนหักหน้าตำรวจหรือไม่ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.10 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27
คุณไอซ์ คุณเป็นรุ่นพี่ของน้องหยกหรือคะ?
ใช่ครับ เป็นสายงานตรง คุยกับน้องตลอด ปรึกษาเรื่องคดี คุยกันว่าจะต้องตามอะไรบ้างของการลงพื้นที่ข่าวในทุกๆข่าวครับ
ตอนไปถามแม่ของนาย เขาเป็นไงคะ น้องหยก?
หนูไปสอบถามว่าแม่จริงๆ พี่สาเขาเข้ามาที่บ้านบ้างไหมตั้งแต่วันแรก คุณแม่ก็บอกว่าไม่รู้เลย ไม่เห็นเลย พอวันที่ 2 ก็ถามคำถามเดิมอีกรอบ แม่ก็บอกว่า แม่ก็ไม่รู้นะ แต่แม่ก็เห็นรถของพี่สาจอดอยู่ แต่แม่ก็ถามนายว่าสาไปไหน แม่ก็บอกว่าพี่นายบอกแม่ตอนนั้นว่า สาออกไปนานแล้ว ซึ่ง 2 วันนี้มันต่างกันแล้ว วันแรกแม่บอกไม่เห็นเลย วันที่ 2 แม่บอกว่าแม่เห็นรถของสามา และแม่ก็ถามว่าสาไปไหน จนกระทั่งเมื่อวานนี้หลังจากที่พบศพคุณแม่ก็บอกว่า แม่ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันอยู่ ประมาณว่าถอยออกไปนะ อย่าเข้ามานะ ซึ่งทั้ง 3 วันคุณแม่พูดให้ข้อมูลไม่ตรงกัน อีกอย่างคือสีหน้าคุณแม่ตอนที่เรามาเดินดูบริเวณรอบวัด ไม่ได้ใส่ร้ายอะไรนะคะ ตามที่เห็น คุณแม่มีสีหน้าเป็นกังวลค่ะ
คุณไอซ์ ปกติเราได้เบาะแส ทีมงานของคุณจะต้องไปสืบค้นอย่างไรคะ?
ผมว่าจุดเริ่มต้นมันมาจากความสงสัยก่อนว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเรื่อง พอเราได้เรื่องราว เราหรือทีมงานเองหลายคน รวมถึงพี่พุทธด้วย มาประชุมกันว่า มันน่าสนใจนะเรื่องนี้ น่าช่วยเหลือเขา อย่างกรณีเคสนี้ น้องสาเองเขาหายไปวันที่ 9 เราลงทำข่าววันที่ 10 เราก็ทำข่าวจนได้กล้องวงจรปิด แต่มันเห็นพิรุธหลายอย่าง รถของเขาสาขับ แต่พออีกวันนึงมีผู้ชายขับเอาไปทิ้ง แต่ไม่เจอสาแล้ว เรารู้สึกแล้วว่ามันน่าจะมีอะไรเกิดขึ้น อย่างที่น้องหยกบอกถ้าเขาหนีไปด้วยกันมันต้องเห็นทั้งคู่ด้วย แต่มันเจอทีละคน มันน่าสงสัย พอมาคุยต่อว่าแม่ให้สัมภาษณ์ไม่ตรงกันหลายรอบ เลยรู้สึกว่าข่าวแบบนี้ต้องติดตาม เป็นการช่วยเหลือ ซึ่งหลายๆเคสเราทำแบบนี้เหมือนกัน จนเราอยากหาคำตอบและความจริงของเรื่องนั้นๆครับ
ทำไมนักข่าวช่อง 8 ถึงขี้สงสัย มันเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ?
คือผมว่ามันเป็นหน้าที่หนึ่งของสื่อมวลชนด้วย โดยเฉพาะข่าวช่อง8 เรายึดหลัก นำเสนอความจริง ดังนั้นเราต้องคลี่คลายความจริงให้ได้ ทุกกรณีเราทำเหมือนกัน ไม่ได้มีรู้จักใครเป็นการส่วนตัว ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราอยากจะเปิดเผยความจริงว่ามันเกิดอะไรเกิดขึ้น
คุณไอซ์แต่หลายคนก็สงสัยว่าไปตามกล้องวงจรปิดได้อย่างไร?
ผมว่าส่วนหนึ่งต้องชื่นชมนักข่าวนะอย่าง น้องหยก ณัฐดนัย และแนน สิกิตตรี ที่เคยคลี่คดีหลายๆคดี ส่วนใหญ่นักข่าวมีความสงสัย มีความเฉลียว เวลาขับรถผ่านเส้นทางต่างๆ ก็สังเกตดูแบบนี้ครับ ส่วนใหญ่เราก็ต้องขอบคุณชาวบ้านด้วย ชาวบ้านต่างจังหวัดน่ารัก เป็นกล้องของเอกชน หรือเป็นกล้องของชาวบ้านที่เขาติดกันไว้ตามหน้าบ้าน เราก็ไปขอ เขาก็ให้ความร่วมมือ ใช้วิธีลงพื้นที่ เราประเมินว่า ถ้าเราเป็นคนร้าย เราเป็นคนหาย เราจะไปตามเส้นทางไหน แล้วเราลองไปหาดูครับ
นักข่าวสืบเสาะ เกินหน้าที่นักข่าวไหมคะ?
ในมุมมองผม ไม่ได้มองว่าไปเกินหน้าที่หรือไม่เกินหน้าที่ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ อย่างกรณีนี้ พอเราเจอ เราไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับหลักฐานเลย เราโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ ให้ตำรวจมาดู เก็บหลักฐานก็เป็นหน้าที่ต่อที่ตำรวจรับหน้าที่ต่อไป ผมว่าส่วนหนึ่งเป็นการช่วยเหลือกันมากกว่า ผมมีโอกาสได้คุยกับตำรวจ เขาก็บอกว่าเราทำงานแบบพึ่งพากัน เรามีทีมงานลงพื้นที่ไปทำข่าว แล้วเราเจอหลักฐานอะไร เราก็ส่งต่อไปให้กับทางตำรวจครับ มันก็ช่วยๆกันครับ
น้องหยก ลุยถึงที่แบบนี้ อยากทราบแนวความคิดในการทำงาน?
ต้องบอกก่อนนะคะ หยกพึ่งเข้ามาทำงานในฐานะสื่อมวลชน 7-8 เดือน ประสบการณ์เราก็แทบไม่มี ก็จะอาศัยประสบการณ์จากรุ่นพี่ พี่ๆช่อง8 เขาจะคอยแนะนำ อย่างเช่นกรณีนี้ที่หยกเจอ ตอนแรกหยกก็ไม่รู้หรอกว่าหยกต้องทำอย่างไรต่อ ก็มีการต่อสายไปหาพี่ไอซ์โดยตรงเลย ซึ่งก็สอบถามพี่ไอซ์ว่าหยกเจอแบบนี้ ต้องทำอย่างไรต่อ ก็ได้คำแนะนำมา และรวมถึงพี่พุทธด้วยค่ะ เขาที่เคยทำอะไรมาทั้งหมด อะไรที่มันดี หรืออะไรที่เราขาดตกบกพร่อง เขาก็จะให้คำแนะนำกลับมาว่าเราควรจะทำอย่างไร ถึงจะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน จึงเป็นแนวทางที่ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
น้องหยกอยากจะพูดอะไรกับแฟนๆทางบ้านไหมคะ?
ก่อนอื่นขอขอบคุณผู้ชมนะคะที่คอยติดตามข่าวจากรายการลุยชนข่าว อยากจะให้ทุกคนคอยสนับสนุนเรื่อยๆ เราสัญญาว่า จะทำข่าวให้มันถูกต้อง และก็จะไขความจริงให้มันกระจ่าง ก็อยากจะให้ติดตามกันต่อไป หลังจากนี้ทุกๆคดี เราจะไขความจริงให้กระจ่าง ถูกต้อง รวดเร็วค่ะ
คุณไอซ์คะ เราทำงานได้ว่องไวกว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอะทีเดียว?
ตรงนั้นเราไม่ได้เปรียบเทียบหรอกครับ แต่เราก็ภูมิใจในการที่เราทำงานได้อย่างรวดเร็ว และได้คำตอบ อย่างกรณีนี้เราได้ส่งน้องหยก และน้องณัฐดนัยก็ไปทำด้วย เราก็แบ่งทีมกัน น้องหยกอยู่กับเรื่องคดีว่าน้องสาเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนน้องณัฐดนัยก็ตามจนกระทั่งดูว่าคนร้ายหนีไปไหน หลังจากก่อเหตุเสร็จ มันไปทำอะไรต่อแบบนี้ครับ เราแบ่งหน้าที่กัน เราก็ต้องขอบคุณน้องๆด้วย
DNA ของข่าวช่อง 8 เป็นอย่างไรคะ?
ผมทำเสมือนว่าข่าวนั้นๆเกิดขึ้นกับครอบครัว ผมเชื่อว่าดีเอ็นเอหนึ่งเราต้องหาความกระจ่างใช่ไหม พอเราเป็นคนในครอบครัวหรือผู้เสียหายในคดีนี้ เราอยากจะได้คำตอบอะไร อย่างเราบอกไปแจ้งความ แล้วยังไม่ได้รับคำตอบความคืบหน้าทางคดีหรือเป็นเรื่องของทางคดี อันนี้เราเปิดเผยไม่ได้ ดังนั้นเรามีหน้าที่เป็นสื่อมวลชน เราก็รู้สึกว่าชาวบ้าน พ่อแม่ พี่น้อง เขาอยากได้คำตอบ เราก็ส่งทีมข่าวลงพื้นที่ไปให้คำตอบกับเขา เรามีดีเอ็นเอที่เหมือนกันแบบนั้น ไม่ใช่แค่ผม พี่พุทธ แต่รวมถึงทีมงาน และผู้สื่อข่าวภาคสนามทุกๆคนด้วยครับ
ทีมการทำงานของเรา ทำให้ตำรวจต้องทำงานมากขึ้นไหมคะ?
ผมว่าไม่นะครับ สำหรับส่วนตัวผมและทีมงาน เท่าที่คุยกับน้องๆ พอเสนอข่าวปุ๊บ ตำรวจโทรหาเลยว่ามันมีแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ มันมีแบบนี้ แสดงว่าเราช่วยอะไรได้เราก็ช่วยครับ อย่างน้อยคดีมันคืบหน้า อย่างน้อยมันก็คงมีบ้างที่มีคนต่อว่า ว่าคุณไปยุ่งงานของตำรวจหรือเปล่า ก็แล้วแต่เขาจะคิด ในมุมมองของเรา เราทำหน้าที่ครับ
การทำงานของทางทีมข่าว จะไปข้ามหน้าข้ามตาทางตำรวจไหมคะ?
อย่าถือว่าข้ามหน้าข้ามตา และอยากไปกลัวเขม่น มันต้องมาขอความรู้จากเรา ตามหลักนะ เขาต้องมาขอรายละเอียดจากเรา เราไม่ต้องกลัวเขม่น เพราะมึงไม่ทำ มึงจะมาเขม่นทำไม ใช่ไหมครับ มึงต้องมาขอเขา เขาได้ ไม่ต้องกลัวครับ นักข่าว สื่อมวลชน และพวกเราเนี่ย ผมถือว่าเรา ผมก็ถือว่าเราคือภาคประชาชนแล้ว การจะช่วยเจ้าหน้าที่รัฐสำคัญที่สุด ที่สำคัญที่เข้มแข็งที่สุดคือภาคประชาชน ถ้าพวกเราช่วยกันตรวจสอบ บี้ จี้ ใจ ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะต้องทำงาน และที่สำคัญภาครัฐเข้มแข็ง การทุจริต คอร์รัปชันมันก็จะน้อยลงครับ ดังนั้นอย่าไปกลัวเขม่น ทำไปเถอะครับ แล้วจะได้ดี ประชาชนจะได้ประโยชน์จากเราครับ ทำไปเลย